พลเอก อนันตพร กาญจนรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน กล่าวแสดงความยินดีในฐานะประธานในพิธี มอบรำงวัลฯว่า ความร่วมมือของภาครัฐและเอกชนในการดำเนินโครงการพลังงานเพื่อชีวิต ลดโลกร้อน ด้วยวิถีพอเพียงสอดคล้องกับสถานการณ์พลังงานในปัจจุบันและแนวทางการทำงานแบบประชารัฐ ที่บูรณาการความร่วมมือจากทุกภาคส่วน เพื่อส่งเสริมการพัฒนาอย่างยั่งยืนของประเทศ ด้วยการร่วมกันเสริมศักยภาพและเชิดชู “โรงเรียน” และ “ครู” ซึ่งเป็นต้นทางสำคัญด้านการศึกษาตลอดจนน้อมนำปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงมาเป็นหัวใจสำคัญในการปลูกจิตสำนึกเรื่องการอนุรักษ์พลังงานและทรัพยากรธรรมชาติ โดยเฉพาะอย่างยิ่งใน “เยาวชน” ซึ่งจะเป็นพลังสำคัญของประเทศต่อไปในอนาคต ผลงานที่ปรากฏเป็นรูปธรรมของโรงเรียนและครู นอกจากจะเป็น “แบบอย่าง” ที่ดีแล้ว
ยังสามารถเป็น “แรงบันดาลใจ” ให้ผู้อื่นเชื่อมั่น ศรัทธา และดำเนินงานตาม ตลอดจนเป็นศูนย์กลางของการเผยแพร่ความรู้สู่ “ชุมชนในพื้นที่” เพื่อนำไปสู่การร่วมคิด ร่วมสร้างสรรค์ เพื่อความยั่งยืนของสังคมโดยรวม
นายชนินทร์เชาวน์นิรตัศยั กรรมกำรผู้จัดการใหญ่ เอ็กโก กรุ๊ปเปิดเผยว่าในฐานะผู้ผลิตไฟฟ้าเอกชนรายใหญ่แห่งแรกของไทย เอ็กโก กรุ๊ป มุ่งมั่นดำเนินธุรกิจผลิตไฟฟ้ำให้เติบโตอย่างต่อเนื่องและมีประสิทธิภาพ เพื่อร่วมสร้างความมั่นคงให้กับระบบไฟฟ้าของประเทศ ควบคู่ไปกับการร่วมดูแลสิ่งแวดล้อมให้อุดมสมบูรณ์และการร่วมสร้างชุมชน และสังคมให้เข้มแข็ง
การด ำเนินงานโครงการนี้ มุ่งเน้นการพัฒนำกระบวนการเรียนรู้ด้านพลังงานและสิ่งแวดล้อมแบบมีส่วนร่วม โดยถ่ายทอดองค์ความรู้ของแต่ละหน่วยงานไปสู่ “โรงเรียน” และ “ครู” ซึ่งเป็นต้นทางการเรียนรู้ของสังคมไทย เพื่อบ่มเพาะจิตสำนึกที่ดีให้กับ “เยาวชน” และขยายผลไปสู่ “ชุมชนในแต่ละพื้นที่” โดยมุ่งหวังให้โรงเรียน ครู เยาวชน และชุมชน เชื่อมโยงกันเป็นเครือข่ายในระดับท้องถิ่น เพื่อเป็นรากฐานของสังคมที่เข้มแข็งต่อไปตลอดระยะเวลา 3 ปีที่ผ่านมา“โรงเรียน” และ “ครู” ที่เข้าร่วมโครงการฯ ได้ร่วมกันสร้างสรรค์ผลงานการเรียนรู้ที่
หลากหลาย โดยใช้3 เครื่องมือส ำคัญของโครงการฯ ช่วยขับเคลื่อนแนวคิดไปสู่ผลงานการเรียนรู้ที่เป็นรูปธรรม ได้แก่
หลักการพัฒนาโรงเรียนทั้งระบบ (Whole School Approach – WSA) แผนที่วิถีพอเพียง (Sufficiency Map – S-Map) และการประเมินวัฏจักรชีวิตผลิตภัณฑ์ (Life Cycle Assessment – LCA) ซึ่งพิสูจน์ให้เห็นว่า จิตสำนึกอนุรักษ์พลังงานและสิ่งแวดล้อมเกิดขึ้นได้จำกกำรจัดกระบวนการเรียนรู้ที่มีประสิทธิภาพในโรงเรียน นำไปสู่กำรปรับเปลี่ยนวิถีชีวิตให้พอเพียงและสอดคล้องกับบริบทท้องถิ่น ซึ่งนับเป็นการเรียนรู้เพื่อการเปลี่ยนแปลงที่มีคุณภาพและยั่งยืน
“สำหรับแนวทางการต่อยอดความสำเร็จของโครงการพลังงานเพื่อชีวิตฯ ในอนาคต บริษัทฯ จะขยายผลไปยังโรงเรียนที่อยู่ใกล้โรงไฟฟ้าในกลุ่มเอ็กโก โดยใช้รูปแบบกระบวนการเรียนรู้เพื่อการอนุรักษ์พลังงานและสิ่งแวดล้อมที่สรุปได้จากการดำเนินงานโครงการนี้ เริ่มจากการสร้างความตระหนักในปัญหา การส่งเสริมให้เรียนรู้จากชีวิตจริงตามบริบทท้องถิ่น และ สนับสนุนให้เยาวชนคิดวิเคราะห์และได้ลงมือปฎิบัตัตลอดจนให้โรงไฟฟ้ำในกลุ่มเอ็กโกเป็นแหล่งเรียนรู้ด้านพลังงานไฟฟ้าที่เยาวชนในชุมชนสามารถมาเรียนรู้และสัมผัสได้ด้วยตนเอง นอกจากนี้ จะเผยแพร่เครื่องมือการจัดการเรียนรู้ที่ใช้ในโครงการพลังงานเพื่อชีวิตฯ เพื่อเป็นประโยชน์ต่อครู โรงเรียน และผู้สนใจต่อไป” นายชนินทร์ กล่าวสรุป
ดร.ทวำรัฐ สูตะบุตร ผู้อำนวยการสำนักงำนนโยบายและแผนพลังงาน (สนพ.) กระทรวงพลังงาน ในฐานะองค์กรร่วมจัดกล่าวว่า“ตลอดระยะเวลา 3 ปีที่ทั้ง 3 หน่วยงานได้ร่วมมือกันขับเคลื่อนงานส่งเสริมการอนุรักษ์