ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายวีระศักดิ์ วิเชียรแสน ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดกาฬสินธุ์ ได้เข้าสำรวจสภาพบ้านเรือนประชาชน ในเขต อ.สหัสขันธ์ ซึ่งตลอดทั้งคืนที่ผ่านมา เกิดพายุฤดูร้อนพัดบ้านเรือนประชาชน โดยเฉพาะในเขตอำเภอสหัสขันธ์ ทำให้ไฟฟ้าดับในเขตเทศบาล นานกว่า 3 ชั่วโมง ซึ่งแรงพายุได้พัดสังกะสีหลังคาบ้านปลิวว่อนกระจายเกลื่อนหมู่บ้าน ต้นไม้ใหญ่ล้มกีดขวางเส้นทางจราจร โดยมีบ้านเรือนประชาชนได้รับความเสียหายจำนวน 70 หลังคาเรือน รวมถึงโรงเรียนถ้ำปลาวิทยายน ที่อาคารเรียนได้รับความเสียหายอย่างหนักจากแรงพายุที่เกิดขึ้น
นายชาติชาย ยี่สารพัฒน์ ผู้อำนวยการโรงเรียนถ้ำปลาวิทยายน กล่าวว่า พายุฤดูร้อนที่เกิดขึ้นตลอดทั้งคืนที่ผ่านมาได้ทำให้โรงเรียนได้รับความเสียหายอย่างมาก โดยเฉพาะห้องจริยธรรม ที่หลังคา แผ่นฝ้าเพดานปลิวออกจากตัวอาคาร นอกจากนี้ ยังมีอาคารโรงรถ โรงเรือนเลี้ยงสัตว์ ได้รับความเสียหาย นอกจากนี้ ยังมีปัญหาต้นไม้ใหญ่ล้มพาดสายไฟและทำให้โรงเรียนยังไม่สามารถใช้ไฟฟ้าได้จนถึงขณะนี้ โดยได้รายงานไปยังผู้บังคับบัญชาตามลำดับชั้น เพื่อหาซ่อมแซม และแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นก่อนเปิดภาคเรียน โดยเฉพาะการซ่อมแซมอาคารเรียนที่ถูกพายุพัดเสียหาย 2 หลัง ที่ถือว่ายังโชคดีที่พายุเกิดขึ้นในช่วงปิดภาคเรียนไม่เช่นนั้นคงเป็นอันตรายต่อนักเรียนและบุคลากรในโรงเรียนได้
นายวินัย วิทยานุกูล ผู้ว่าฯกาฬสินธุ์ ระบุว่า ความเสียหายที่เกิดขึ้นจากพายุ ครอบคลุมเกือบทั้งจังหวัดกาฬสินธุ์ โดยส่วนใหญ่จะอยู่ในเขตเทือกเขาภูพาน รวมแล้วถึง 12 อำเภอ มีบ้านเรือนประชาชนเสียหายกว่า 800 หลังคาเรือน ซึ่งเบื้องต้น องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นและเหล่ากาชาดได้เร่งให้การช่วยเหลือ โดยทางจังหวัดร่วมกับทหาร ได้เข้าซ่อมแซมบ้านเรือนประชาชน
แต่เนื่องจากในระยะนี้มีคำเตือนจากกรมอุตุนิยมวิทยา จึงขอเตือนให้ประชาชนระมัดระวังเมื่อเกิดพายุฝน เนื่องจากในขณะนี้ความรุนแรงของพายุคาดว่าจะมีความรุนแรงมากยิ่งขึ้น
วันเดียวกันนี้ที่ จ.นครพนม นายอติชาต อุณหเลขะกะ นายอำเภอธาตุพนม พร้อมด้วย นายสมบูรณ์ ลำผัว นายก อบต.ฝั่งแดง อ.ธาตุพนม ร่วมกับเจ้าหน้าที่จากหน่วยงานเกี่ยวข้อง ลงพื้นที่ตรวจสอบให้การช่วยเหลือชาวบ้านในพื้นที่ ต.ฝั่งแดง อ.ธาตุพนม จ.นครพนม ภายหลังเกิดพายุฤดูร้อนพัดบ้านเรือนได้รับความเสียหาย ในพื้นที่ ต.ฝั่งแดง อ.ธาตุพนม จ.นครพนม เมื่อช่วงเย็นของเมื่อวานที่ผ่านมา
ทำให้มีบ้านเรือนของชาวบ้านถูกพายุพัดพังเสียหาย กว่า 30 หลังคาเรือน มีได้รับความเสียหายอย่างหนัก จำนวน 10 หลัง ซึ่งถือเป็นการเกิดพายุเป็นรอบที่ 2 ในพื้นที่ อ.ธาตุพนม จ.นครพนม และได้รับผลกระทบหนักสุดในรอบปี เบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่จากหน่วยงานเกี่ยวข้องได้เร่งสำรวจให้การช่วยเหลือ ระดมกำลังเข้าซ่อมแซมฟื้นฟูที่พักอาศัย บรรเทาความเดือดร้อน พร้อมจัดสรรงบประมารณเข้าไปดูแลช่วยเหลือตารมระเบียบทางราชการ
โดยในส่วนของพื้นที่ จ.นครพนม ในช่วงเดือนเมษายน 2559 สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย จ.นครพนม ได้สรุปสถิติความเสียหายจากพายุฤดูร้อน พบว่ามีพื้นที่ได้รับผลกระทบ จำนวน 10 อำเภอ 23 ตำบล 71 หมู่บ้าน 425 ครัวเรือน
หนักสุดคือ อำเภอธาตุพนม ได้รับผลกระทบ 2 ครั้ง รวมมีบ้านเรือนเสียหาย มากกว่า 200 หลังคาเรือน ซึ่งทางจังหวัดนครพนม จะได้เร่งให้การดูแลช่วยเหลือต่อเนื่อง พร้อมประกาศเตือนให้ประชาชน เฝ้าระวังในช่วงนี้