นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่ากระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ลงพื้นที่เป็นประธานการประชุมติดตามการแก้ไขปัญหาสถานการณ์ไฟป่าและหมอกควัน ในพื้นที่ 9 จังหวัดภาคเหนือตอนบน ผ่านระบบ Video Conference ณ ห้องประชุมศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขปัญหาไฟป่าและหมอกควัน (ส่วนหน้า) จังหวัดเชียงใหม่ โดยโอกาสนี้ นายจตุพร บุรุษพัฒน์ ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม พร้อมด้วย ผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขปัญหาไฟป่าและหมอกควัน (ส่วนหน้า) ผู้ตรวจกระทรวงฯ อธิบดีกรมป่าไม้ กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช รวมถึงส่วนราชการในพื้นที่ 9 จังหวัดภาคเหนือตอนบน และกองทัพภาคที่ 3 ร่วมประชุมรับทราบนโยบายจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ดังนี้
1. ให้ผู้ตรวจราชการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม อธิบดีกรมป่าไม้ อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ผู้ว่าราชการจังหวัด และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ให้ความสำคัญกับการแก้ไขปัญหาสถานการณ์ไฟป่าและหมอกควันอย่างเร่งด่วน
2. ให้ สำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัด กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช และ กรมป่าไม้ สนับสนุนดูแลเรื่องสวัสดิการสร้างขวัญและกำลังใจในการปฏิบัติงานแก่เจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติงานทุก ๆ ท่านที่อยู่ในพื้นที่
3. ในช่วงประกาศปิดพื้นที่ป่าอนุรักษ์ทั้งหมด หากพบมีผู้บุกรุก ให้จับกุมดำเนินคดีทันทีโดยมิให้ละเว้น
4. ให้สร้างความรู้ความเข้าใจกับประชาชน โดยเฉพาะในโรงเรียนและสถานบันการศึกษา เพื่อให้คนรุ่นใหม่ได้ถ่ายทอดไปสู่คนรุ่นเก่าในกลุ่มชาติพันธุ์ต่างๆ ให้ตระหนักถึงความสำคัญของพื้นที่ป่าและความเสียหายจากไฟป่า
5. ขอให้พิจารณาแนวทางการใช้เทคโนโลยีอากาศยานไร้คนขับ หรือ UAV (Unmanned Aerial Vehicles) ในการสำรวจตรวจจับจุดความร้อน เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการดำเนินงานและเจ้าหน้าที่ให้รวดเร็วขึ้น อีกทั้ง ให้กรมป่าไม้ประสานไปยังกองทัพอากาศ เพื่อขอความสนับสนุนในการใช้ข้อมูลจากเทคโนโลยี UAV
มาประกอบการปฏิบัติงาน
6. พิจารณาแนวทางการกำหนดเจ้าหน้าที่เข้าไปประจำในหมู่บ้านต่างๆ เพื่อเฝ้าระวังในหมู่บ้านพื้นที่ที่ความเสี่ยงและพื้นที่ที่พบว่ามีการเผาบ่อยครั้ง โดยเฉพาะในพื้นที่ 4 จังหวัด คือ จังหวัดเชียงใหม่ แม่ฮ่องสอน เชียงราย และพะเยา โดยให้ประสานงานกับเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองให้ร่วมทีมเพื่อความรอบคอบรัดกุม
7. พิจารณาจัดหาอุปกรณ์ที่มีความทันสมัย มีความเหมาะสมสำหรับใช้ในทีมดับไฟป่าและลาดตระเวน ทีมละอย่างน้อย 1 ชุด เพื่อเพิ่มศักยภาพและสร้างความฮึกเหิมให้กับเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงาน
8. ด้านงบประมาณสนับสนุน ขอให้มีการพิจารณาปรับงบประมาณให้เหมาะสม