เมื่อวันที่ 29 มีนาคม 2563 เวลา 19.10น. นายภัคพงศ์ ทวิพัฒน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต /ประธานคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดภูเก็ต ผู้กำกับการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉินในเขตพื้นที่จังหวัดภูเก็ตออกประกาศฉบับที่ 11/2563 เรื่องปิดช่องทางเข้า-ออกจังหวัดภูเก็ต ภายหลังเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดภูเก็ต ครั้งที่ 11/2563 มี หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุมฯ ณ ห้องประชุม ศาลากลางจังหวัดภูเก็ต
สาระสำคัญ ประกาศฉบับที่ 11 ระบุว่า ตามที่ผู้ว่าราชการจังหวัดภูก็ต โดยความเห็นชอบของคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดภูเก็ตได้ออกมาตรการในการเฝ้าระวังและยับยั้งการแพร่ระบาดจากโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 มาอย่างต่อเนื่องแล้วนั้น ในปัจจุบันสถานการณ์การติดเชื้อและการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ยังไม่มีแนวโน้มลดลง เพื่อเป็นการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินให้ยุติลงโดยเร็วและไม่ให้เกิดเหตุการณ์รุนแรงมากขึ้น อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 35 แห่งพระราชบัญญัติโรคติดต่อ พ.ศ. 2558
และข้อกำหนดตามความในมาตรา 9 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ 2548 (ฉบับที่ 1) ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต ในฐานะผู้กำกับการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉินในเขตพื้นที่จังหวัดภูเก็ต โดยความเห็นชอบข้องคณะกรมการโรคติดต่อในคราวประชุม ครั้งที่ 11/2563เมื่อวันที่ 29มีนาคม 2563จึงกำหนดปิดช่องทางเข้า -ออกพื้นที่จังหวัดภูเก็ต
ยกเว้นช่องทางเดินอากาศ ตั้งแต่เวลา 00.01น. ของวันที่ 30 มีนาคม พ.ศ. 2563 ถึง วันที่ 30 เมษายน พ.ศ.2563 จนกว่าจะมีประกาศเปลี่ยนแปลงเป็นอย่างอื่น ดังนี้
1 .ปิดช่องทางบก ด่านตรวจจังหวัดภูเก็ต (ท่าฉัตรไชย)
โดยห้ามยานพาหนะทุกชนิด และบุคคลเข้า – ออก ยกเว้น ยานพาหนะสำหรับการขนส่งสินค้าเครื่องอุปโภคบริโภค แก๊สหุงตัม น้ำมันเชื้อเพลิง วัสดุก่อสร้าง เครื่องมือแพทย์ ยานพาหนะกู้ชีพกู้ภัย รถพยาบาล รถฉุกเฉินทางการแพทย์ รถที่ใช้สำหรับภารกิจของทางราชการ รถขนส่งพัสดุและสิ่งพิมพ์ ทั้งนี้ ผู้ได้รับอนุญาตยกเว้นหรือผ่อนผัน ต้องปฏิบัติตามคำสั่งของเจ้าพนักงานควบคุมโรคติดต่อ โดยเคร่งครัด
2. ปิดช่องทางน้ำ
2.1 ช่องทางเข้า-ออก ทางน้ำระหว่างประเทศ โดยห้ามเรือทุกชนิดและบุคคล เข้า – ออก ยกเว้นเรือบรรทุกสินค้า ขนส่งสินค้าตามความจำเป็น เมื่อเสร็จภารกิจแล้วให้กลับออกไปโดยเร็วโดยไม่อนุญาตให้ลูกเรือและ/หรือ คนประจำเรือลงจากเรือโดยเด็ดขาด
2.2 ช่องทางเข้า-ออก ทางน้ำระหว่างจังหวัด โดยห้ามเรือทุกชนิดและบุคคล เข้า – ออกยกเว้นเรือสำหรับการขนส่งเครื่องอุปโภคบริโภค วัสดุก่อสร้าง เรือกู้ชีพและขนส่งเครื่องมือแพทย์ เรือพยาบาล เรือฉุกเฉินทางการแพทย์ เรือที่ใช้สำหรับภารกิของทางราชการ ทั้งนี้ ผู้ควบคุมเรือและเจ้าหน้าที่ประจำเรือซึ่งจำเป็นต้องลงจากเรือ ต้องผ่านกระบวนการคัดกรองตามมาตรการป้องกันโรคติดต่อที่ทางราชการกำหนด
ทั้งนี้ การถือปฏิบัติตามข้อ 1และข้อ 2 ไม่รวมถึงบุคคลซึ่งได้รับการยกเว้นหรือผ่อนผัน ดังต่อไปนี้
1. เป็นกรณีหรือผู้มีเหตุยกเว้น ตามที่นายกรัฐมนตรี หรือหัวหน้าผู้รับผิดชอบในการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินกำหนด หรืออนุญาตตามความจำเป็น โดยอาจกำหนดเงื่อนไข หรือเงื่อนเวลาก็ได้
2. เป็นบุคคลในคณะทูต คณะกงสุล องค์การระหว่างประเทศ หรือผู้แทนรัฐบาล ที่มาปฏิบัติงานในพื้นที่จังหวัดภูเก็ต หรือหน่วยงานของประเทศอื่น ตามที่กระทรวงการต่างประเทศหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอนุญาตตามความจำเป็น ตลอดจนบุคคลในครอบครัวบุคคลดังกล่าว โดยติดต่อกระทรวงการต่างประเทศออกหนังสือรับรองว่าเป็นบุคคลที่เดินทางเข้ามาในราชอาณาจักร โดยแสดงหลักฐานที่เกี่ยวข้องบุคคลซึ่งได้รับการยกวัน หรือผ่อนผันตามข้อ1-2 ต้องมีใบรับรองแพทย์ที่ยืนยันว่ามีสุขภาพเหมาะลมต่อการเดินทาง ซึ่งได้รับการตรวจรับรอง หรือ ออกให้ในะยะเวลาไม่เกิน 72 ชั่วโมง และเมื่อเข้าในพื้นที่ในจังหวัดภูเก็ตแล้ว ต้องปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโรคตามที่ราชการกำหนดโดยเคร่งครัด และเจ้าหน้าที่ประจำด่านมือำนาจปฏิเสธไม่ให้ผู้ไม่มีสัญชาติไทยที่ตรวจพบ หรือ ต้องสงสัยว่าติดเชื้อโควิด -19 หรือไม่ยินยอมให้ตรวจเดินทางเข้าในพื้นที่จังหวัดภูเก็ตได้
ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 30 มีนาคม พ.ศ.2563ถึงวันที่ 30 เมษายน พ.ศ.2563 จนกว่าจะมีประกาศเป็นอย่างอื่น ประกาศ ณวันที่ 29 มีนาคม พ.ศ.2563