พันตำรวจเอก ณรัชต์ เศวตนันทน์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ เปิดเผยว่า ตามที่ ผู้ต้องขังได้ก่อเหตุจลาจลภายในเรือนจำจังหวัดบุรีรัมย์ วันที่ 29 มีนาคม 2563 โดยกรมราชทัณฑ์ได้สนธิกำลังกับตำรวจ ทหาร กองอาสารักษาดินแดน (อส.) ช่วยกันควบคุมสถานการณ์ไว้ได้ โดยได้มีการเคลื่อนย้ายผู้ต้องขังจำนวนกว่า 2,000 คน ไปคุมขังไว้ในเรือนจำใกล้เคียงกว่า 15 แห่งและยังมีผู้ต้องขังหลบหนีไปได้หนึ่งราย คือ ข.ช.ธันยพงศ์ สินพูน อายุ 26 ปี คดีพรบ.ยาเสพติดให้โทษ นั้น
พันตำรวจเอก ณรัชต์ กล่าวว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.คูเมือง ตำรวจภูธรจังหวัดบุรีรัมย์ และชุดสืบสวนตำรวจภูธรภาค 3 ได้ทำการจับกุมตัวผู้ต้องขังรายดังกล่าวไว้ได้แล้ว โดยได้รับแจ้งจากพลเมืองดีว่าพบบุคคลต้องสงสัย อยู่บริเวณป่าใกล้ลำคลองคูเมืองโบราณของหมู่บ้านโนนเมือง ซึ่งเป็นบ้านเกิดของ ข.ช.ธันยพงศ์ฯ เบื้องต้นให้การรับสารภาพว่า ตนได้อาศัยช่วงชุลมุนขณะเกิดเหตุจลาจล ทุบกำแพงพร้อมตัดกรงเหล็กเรือนจำฯ บริเวณช่องทางเยี่ยมญาติ ก่อนวิ่งหลบหนีข้ามกำแพงไปด้านหลังเรือนจำ และขโมยเสื้อผ้าพร้อมรถจักรยานยนต์จากหอพักใกล้เคียงหลบหนี หลังจากนั้นซ่อนตัวที่บ่อระเบิดหินจนถึงเที่ยงคืนก่อนหนีมาบ้านเกิดและถูกจับกุมตัวในที่สุด โดยขณะนี้ได้ควบคุมตัวไว้ที่สถานีตำรวจภูธร คูเมือง เรียบร้อยแล้ว พร้อมดำเนินการตามกฎหมาย
พันตำรวจเอก ณรัชต์ฯ กล่าวอีกว่า การจับกุม ข.ช.ธันยพงศ์ฯ ถือเป็นการสิ้นสุดเหตุการณ์ก่อจลาจลที่เรือนจำจังหวัดบุรีรัมย์ โดยในเหตุการณ์นี้ ไม่มีผู้ต้องขังและเจ้าหน้าที่เสียชีวิตหรือได้รับบาดเจ็บสาหัส แต่สภาพเรือนจำฯ เสียหายอย่างหนักไม่สามารถกลับมาใช้การได้ ซึ่งกรมราชทัณฑ์ได้ย้ายผู้ต้องขังกว่า 2,000 ราย ไปยังที่เรือนจำข้างเคียงเรียบร้อยแล้ว และตนได้ตั้งคณะกรรมการสอบ เพื่อหาข้อเท็จจริงและเน้นย้ำกำชับให้ผู้บัญชาการเรือนจำ/ทัณฑสถาน ทั่วประเทศ เตรียมความพร้อมรองรับสถานการณ์ฉุกเฉินที่อาจเกิดขึ้นในพื้นที่อื่นๆ ต่อไป