ดร.สมเกียรติ ประจำวงษ์ เลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) เปิดเผยถึงกรณีที่มีการเผยแพร่ข่าวการให้สัมภาษณ์ของนักวิชาการเมื่อปี 2558 ที่ระบุว่าในปี 2563 จะเกิดน้ำท่วมใหญ่เหมือนปี 2554 ที่ผ่านมา และมีการส่งต่อกันในโลกโซเชียลมีเดียซึ่งอาจจะก่อให้เกิดความสับสนและตื่นตระหนกได้นั้น คณะทำงานภายใต้กองอำนวยการน้ำแห่งชาติ (กอนช.) ได้มีการติดตามสภาพอากาศร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการวิเคราะห์คาดการณ์สภาพอากาศ แนวโน้มการก่อตัวของพายุอย่างต่อเนื่อง ประกอบด้วย กรมอุตุนิยมวิทยา และ สถาบันสารสนเทศทรัพยากรน้ำ (องค์การมหาชน) (สสน.) ซึ่งได้ประเมินวิเคราะห์ร่วมกัน จึงขอชี้แจงใน 4 ประเด็นหลัก คือ 1.การให้สัมภาษณ์ดังกล่าวเป็นการคาดการณ์สภาพภูมิอากาศล่วงหน้าและระยะยาวถึง 5 ปี (ปี 2558 - 2563) ดังนั้น จะมีความคลาดเคลื่อนสูง 2.ในปี 2554 เป็นปีที่เกิดปรากฏการณ์ลานีญากำลังแรง ซึ่งเป็นปัจจัยหนึ่งให้เกิดฝนตกหนัก แต่ในปี 2563 ยังไม่เกิดปรากฏการณ์ลานีญาแต่อย่างใด 3.จากการคาดการณ์ปริมาณน้ำฝนล่วงหน้า 3 เดือน ช่วงเดือน เม.ย. - มิ.ย. 63 จะมีฝนตกต่ำกว่าค่าปกติ 5% ยกเว้นภาคใต้ ส่วนเดือน ส.ค. - ต.ค.63 จะมีฝนตกเพิ่มขึ้น 4.เมื่อเปรียบเทียบสภาพฝนตกปี 2554 กับ ปี 2563 จะพบว่า ใน ปี 2554 ฝนเริ่มตกตั้งแต่ปลายเดือน เมษายน และเกิดฝนตกหนักในประเทศไทยซึ่งเริ่มตกตั้งแต่ภาคเหนือ โดยมีฝนมากกว่าค่าปกติเกิดขึ้นตั้งแต่เดือนพฤษภาคมเป็นต้นมา ประกอบกับมีพายุเข้าประเทศไทยโดยตรง 1 ลูก ขณะที่พายุอีก 4 ลูกมีอิทธิพลทำให้ฝนตกหนักเพิ่มขึ้นเท่านั้น ส่วนปัจจุบันจากการคาดการณ์ของกรมอุตุนิยมวิทยาและสสน. ยังไม่พบสัญญาณการเกิดฝนที่จะตกหนักตั้งแต่ต้นฤดูฝน รวมไปถึงในปี 2554 ปริมาณน้ำในแหล่งน้ำเก็บกับต้นฤดูฝน มีปริมาณน้ำมากกว่า 50% แต่ปี 2563 น้อยกว่า 30% โดยเฉพาะ 4 เขื่อนหลักในลุ่มน้ำเจ้าพระยาที่ปัจจุบันมีช่องว่างรองรับน้ำอยู่มากถึง 16,000 ล้าน ลบ.ม. ซึ่งหากมีฝนตกแบบปี 2554 แหล่งน้ำต่างๆ จะสามารถเก็บกักปริมาณน้ำฝนที่ตกได้ ดังนั้น โอกาสเกิดเหตุการณ์น้ำท่วมแบบปี 2554 หรือเหตุบ่งชี้ที่จะก่อให้เกิดความรุนแรงน้ำท่วมจะเท่ากับปี 2554 นั้นจึงไม่มีความเป็นไปได้แต่อย่างใด
อย่างไรก็ตาม สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ จะประสานงานร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องภายใต้คณะทำงานกองอำนวยการน้ำแห่งชาติ (กอนช.) ในการติดตามสภาพอากาศเป็นระยะๆ และประเมินแนวโน้มสถานการณ์น้ำ ปริมาณฝน พายุ รวมถึงแผนบริหารจัดการน้ำอย่างรอบคอบ ใกล้ชิด มีการเตรียมการรับมือล่วงหน้า และแจ้งเตือนหน่วยงานเกี่ยวข้อง และประชาชน หากมีแนวโน้มของสภาพอากาศที่จะส่งผลกระทบในบริเวณกว้างโดยทันที