ตามที่ได้มีประกาศสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย เรื่อง ห้ามอากาศยานทำการบินเข้าสู่ประเทศไทยเป็นการชั่วคราว ประกาศ ณ วันที่ ๓ เมษายน ๒๕๖๓ เพื่อป้องกันมิให้สถานการณ์การระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา ๒๐๑๙ (COVID 19) รุนแรงมากยิ่งขึ้น และเพื่อสนับสนุนการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินข้างต้นให้ยุติลงโดยเร็ว นั้น
ด้วยเหตุผลและความจำเป็นในการคงความต่อเนื่องของมาตรการดังกล่าวเพื่อประสิทธิผลในการป้องกันและควบคุมโรค อาศัยอำนาจตามความในมาตรา ๒๗ และมาตรา ๒๘ แห่งพระราชบัญญัติการเดินอากาศ พ.ศ. ๒๔๙๗ ผู้อำนวยการสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทยจึงมีคำสั่ง ดังต่อไปนี้
๑. ห้ามอากาศยานขนส่งคนโดยสารทำการบินเข้ามายังท่าอากาศยานในประเทศไทยเป็นการชั่วคราว ตั้งแต่ วันทื่ ๗ เมษายน ๒๕๖๓ เวลา ๐๐.๐๑ น. จนถึงวันที่ ๑๘ เมษายน พ.ศ. ๒๕๖๓ เวลา ๒๓.๕๙ น.
๒. การอนุญาตการบินที่สำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทยได้ออกให้แก่อากาศยานขนส่งคนโดยสาร สำหรับการบินเข้าสู่ประเทศไทยในช่วงระยะเวลาตาม ๑. ให้เป็นอันยกเลิก
๓. ข้อห้ามตาม ๑. ไม่รวมถึงอากาศยานดังต่อไปนี้
(๑) อากาศยานราชการหรือที่ใช้ในราชการทหาร (State or Military aircraft)
(๒) อากาศยานที่ขอลงฉุกเฉิน (Emergency landing)
(๓) อากาศยานที่ขอลงทางเทคนิค (Technical landing) โดยไม่มีผู้โดยสารออกจากเครื่อง
(๔) อากาศยานที่ทำการบินเพื่อให้ความช่วยเหลือทางมนุษยธรรม ทำการบินทางการแพทย์ หรือการ
ขนส่งสิ่งของเพื่อสงเคราะห์แก่ผู้ได้รับผลกระทบจากโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา ๒๐๑๙ (COVID 19) (Humanitarian aid, medical and relief flights)
(๕) อากาศยานที่ได้รับอนุญาตให้ทำการบินรับส่งบุคคลกลับภูมิลำเนา (Repatriation)
(๖) อากาศยานขนส่งสินค้า (Cargo aircraft)
๔. ให้ผู้โดยสารบนอากาศยานที่ได้ออกเดินทางจากท่าอากาศยานต้นทางก่อนประกาศนี้ใช้บังคับอยู่ภายใต้
บังคับของกฎหมายว่าด้วยโรคติดต่อและข้อกำหนดที่ออกตามความในมาตรา ๙ แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการใน สถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. ๒๕๔๘ โดยต้องได้รับการกักตัวเป็นเวลา ๑๔ วัน
ทั้งนี้ บัดนี้เป็นต้นไปหรือจนกว่าจะมีประกาศเปลี่ยนแปลง
ประกาศ ณ วันที่ ๖ เมษายน พ.ศ. ๒๕๖๓
(นายจุฬา สุขมานพ) ผู้อำนวยการสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย