เมื่อวันที่ 7 เม.ย. 63 นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) กล่าวระหว่างการแถลงสถานการณ์ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 โดยตอบคำถามในประเด็น ตัวเลขผู้ป่วยใหม่ที่ลดลงเพราะว่าประสิทธิภาพการตรวจหาเชื้อต่อวันลดลงหรือไม่
นพ.ทวีศิลป์ กล่าวว่า ที่ประชุมศูนย์ปฏิบัติการตอบโต้ภาวะฉุกเฉินทางสาธารณสุข (อีโอซี) ได้สรุปยอดการตรวจโควิด-19ทางห้องปฏิบัติการตั้งแต่เดือน ม.ค.-4 เม.ย.63 รวมสะสม 71,860 ราย ซึ่งที่ประชุมยังไม่พอใจ และจะหาหนทางเพิ่มจำนวนการตรวจให้มากขึ้นให้ได้
"ตอนนี้ความสามารถในการตรวจของทั้งภาครัฐและเอกชนทั้งประเทศ ในกรุงเทพฯตรวจได้วันละ 10,000 ราย และต่างจังหวัดรวมกันได้วันละ 10,000 ราย ซึ่งการตรวจไม่ได้ใช้น้ำยาในการตรวจเพียงอย่างเดียวแต่ต้องใช้บุคลากรทางการแพทย์และเครื่องมือต่างๆด้วย ทำให้มีข้อจำกัดหลายอย่าง ซึ่งจะมีการแก้ไขต่อไป"นพ.ทวีศิลป์กล่าว
โฆษก ศบค. กล่าวว่า ที่ประชุม อีโอซี จะพยายามเพิ่มการตรวจให้มากขึ้น ให้เหมือนกับประเทศที่ตรวจกันเป็นแสนราย จะทำให้เป็นอย่างนั้นให้ได้ ซึ่งเมื่อตรวจเยอะก็อาจจะเจอผู้ติดเชื้อเยอะ โดยจะมีการเตรียมเตียงและเครื่องช่วยหายใจในการรองรับ
อย่างไรก็ตามตัวเลขผู้ป่วยใหม่ที่ลดลง เกิดจาก 3 ประเด็น คือ
1.การประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินและเคอร์ฟิว
2.การควบคุมกันเองของประชาชนทั่วประเทศ
3.การจัดสถานที่รองรับเพื่อกักกันกลุ่มเสี่ยงอย่างชัดเจน
"วันนี้ภาษามวยต้องเรียกว่าการ์ดห้ามตก ถ้าการ์ดตกเมื่อไหร่ก็โดนต่อยจนน็อคได้ เราต้องเข้มข้นต่อไป เพราะวันนี้ทั่วโลกเป็นแหล่งรังโรค หมายความว่ายังมีคนติดเชื้อมาหาเราอยู่ ฉะนั้นต้องระวังตัว ต้องยืนระยะให้ยาวๆ วันนี้ 38 ราย ถ้าต่อไปลดเหลือ 20 หรือเลขตัวเดียวจะยิ่งดี"
"ขณะเดียวกันการมีเกราะป้องกันด้วยมาตรการต่างๆตั้งแต่ตัวบุคคล จังหวัด รอบชายแดน และทุกคนร่วมมือกันกับมาตรการฉุกเฉินนี้ เราก็จะชนะครับ"โฆษกศบค.กล่าว