เมื่อวันที่ 16 ธ.ค. พล.ต.ท.ไตรรงค์ ผิวพรรณ รรท.ผบช.สอท. พล.ต.ต.ชูศักดิ์ ขนาดนิด ผบก.ตอท. พ.ต.อ.ก้องกฤษฎา กิตติถิระพงษ์ รอง ผบก.ตอท. ร่วมประชุมกับคณะกรรมการพิจารณากำหนด หรือทบทวนรายชื่อบุคคลที่มีความเสี่ยงสูงซึ่งควรได้รับการเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด ตามกฎกระทรวงการตรวจสอบเพื่อทราบข้อเท็จจริงเกี่ยวกับลูกค้า พ.ศ. 2563 ครั้งที่ 53/2567 ที่สำนักงาน ปปง. เพื่อพิจารณาเสนอรายชื่อบุคคลผู้มีความเสี่ยงสูง จำนวน 1,500 ราย ซึ่งบุคคลความเสี่ยงสูง คือบุคคลผู้เป็นเจ้าของบัญชีเงินฝากหรือบัญชีเงินอิเล็กทรอนิกส์ที่ถูกใช้หรืออาจถูกใช้ทำธุรกรรมที่เข้าข่ายหรือเกี่ยวข้องกับการกระทำความผิดตามกฎหมาย ว่าด้วยมาตรการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี ในกรณีที่มีผู้เสียหายแจ้งความผ่านระบบ THAIPOLICEONLINE.GO.TH หรือผ่านศูนย์ AOC 1441 หรือเป็นบุคคลเกี่ยวข้องกับการกระทำความผิดมูลฐาน หรือเป็นเจ้าของบัญชีเงินฝากธนาคารที่ถูกใช้ในการกระทำความผิดมูลฐาน หรือเป็นผู้ใช้บัญชีม้าในการหลอกลวงประชาชน โดยที่ผ่านมา ตั้งแต่ มี.ค. 66 พนักงานสอบสวนของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้ร่วมกันเสนอรายชื่อบุคคลที่มีความเสี่ยงสูง รวมกว่า 67,176 รายชื่อ คิดเป็น 99% ของหน่วยงานที่เสนอรายชื่อทั้งหมดต่อสำนักงาน ปปง. โดยมี บช.สอท. ทำหน้าที่บริหารจัดการมาตรการในภาพรวมของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ส่งผลให้บัญชีเงินฝากของบุคคลที่ถูกพิจารณาเป็นบุคคลที่มีความเสี่ยงสูง (ซึ่งเกือบทั้งหมดคือเจ้าของบัญชีม้า) ถูกระงับการทำธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ทุกบัญชี ทุกธนาคารของบุคคลนั้น เป็นระยะเวลา 3 ปี โดยที่ผ่านมามีการระงับบัญชีไปแล้ว 630,537 บัญชี มีมูลค่าเงินที่ระงับจากบัญชีทั้งหมดรวมกว่า 1.8 พันล้านบาท เป็นมาตรการเชิงรุกในการลดจำนวนบุคคลผู้เป็นเจ้าของและบัญชีม้าได้เป็นจำนวนมาก

ทั้งนี้ พล.ต.ท.ไตรรงค์ ผิวพรรณ รรท.ผบช.สอท. ได้เข้าพบและหารือกับ พล.ต.ต.เอกธนัช ลิ้มสังกาศ รองเลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินมาตรการเชิงรุกกับบัญชีม้า ในการดำเนินการให้มีการเปิดบัญชีม้าได้ยากขึ้น ระงับบัญชีม้าเชิงรุกได้มากขึ้นและรวดเร็วขึ้น โดยเฉพาะมาตรการในการติดตามทรัพย์สินมาคืนผู้เสียหายในคดีอาชญากรรมทางเทคโนโลยี.