นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ในฐานะประธานคณะกรรมการบริหารกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง (กบน.) เปิดเผยว่า ที่ประชุม กบน.ได้ประชุมเพื่อกำหนดแนวทางดูแลราคาขายปลีกน้ำมันเชื้อเพลิงในประเทศให้สอดรับกับสถานการณ์ และความเหมาะสม โดยพิจารณาจากแนวโน้มราคาน้ำมันตลาดโลกปรับลดลงและสถานะกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงที่เริ่มมีรายรับเพิ่มขึ้น ที่ประชุมจึงมีมติเห็นชอบให้ปรับอัตราเงินกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงลงสำหรับกลุ่มน้ำมันเบนซินและน้ำมันดีเซล ส่งผลให้ราคาขายปลีกน้ำมันลดลงรวม 1 บาทต่อลิตร การปรับลดราคาดังกล่าวจะดำเนินการเป็น 2 ระยะ ครั้งละ 50 สตางค์ต่อลิตร ได้แก่ ครั้งที่ 1 วันที่ 28 มีนาคม 2568 และครั้งที่ 2 วันที่ 4 เมษายน 2568 เพื่อให้เกิดผลกระทบเชิงบวกต่อประชาชน
“การปรับลดอัตราเงินกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงจากน้ำมันเบนซิน-ดีเซล เพื่อเป็นของขวัญให้ประชาชนในช่วงเทศกาลสงกรานต์ ปี 2568 ซึ่งเป็นช่วงที่มีการเดินทางเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะกลุ่มผู้ใช้รถยนต์ที่ใช้น้ำมัน โดยเฉพาะกลุ่มดีเซล คิดเป็น 2 ใน 3 ของปริมาณการใช้น้ำมันทั้งหมด เพื่อช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายของประชาชนในการเดินทางกลับภูมิลำเนา และเป็นการส่งเสริมสถาบันครอบครัว กระตุ้นการเดินทาง เพื่อการท่องเที่ยวในประเทศช่วงเทศกาลสงกรานต์” นายพีระพันธุ์ กล่าว
นายพีระพันธุ์ กล่าวว่า สำนักงานกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง (สกนช.) รายงานถึงสถานการณ์ และฐานะของกองทุนน้ำมันในช่วงต้นปี (ม.ค.68-23 มี.ค.68) พบว่าฐานะกองทุนน้ำมันมีแนวโน้มดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง จากปัจจัยด้านราคาน้ำมันดิบดูไบช่วงที่ผ่านมาเคลื่อนไหวอยู่ที่ระดับ 80 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล ส่งผลให้กองทุนน้ำมัน มีรายรับเฉลี่ยกว่า 8,000 ล้านบาทต่อเดือน ทำให้ฐานะกองทุนน้ำมันจากเดิมเมื่อวันที่ 5 มกราคม 2568 ติดลบอยู่ที่ 75,945 ล้านบาท แบ่งเป็นบัญชีน้ำมันติดลบ 29,009 ล้านบาท และบัญชีแอลพีจี ติดลบ 46,936 ล้านบาท ปัจจุบันสถานะกองทุนน้ำมันปรับลดลงเมื่อวันที่ 23 มีนาคม 2568 เหลือติดลบ 60,052 ล้านบาท แบ่งเป็นบัญชีน้ำมันติดลบ 14,063 ล้านบาท และบัญชีแอลพีจี ติดลบ 45,989 ล้านบาท
“กบน.ยืนยันความมุ่งมั่นในการรักษาเสถียรภาพราคาพลังงานให้กับประชาชน ขอให้ประชาชนมั่นใจว่ากองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงจะยังคงทำหน้าที่ดูแลราคาพลังงานให้เหมาะสมและเป็นธรรม พร้อมมุ่งมั่นดำเนินงานภายใต้หลักการเปิดเผย โปร่งใส และตรวจสอบได้ เพื่อประโยชน์ของประชาชน และทุกภาคส่วน” นายพีระพันธุ์ กล่าว
นายพีระพันธุ์กล่าวว่า ส่วนการตรึงราคาแก๊สหุงต้มขนาดถัง 15 กิโลกรัมอยู่ที่ 423 บาท/ถังจะสิ้นสุดวันที่ 31 มีนาคมนี้ ที่ประชุมกบน.จะนัดหารือเพื่อพิจารณาแนวทางการดูแลราคาแก๊สหุงต้มอีกครั้งก่อนสิ้นเดือนมีนาคมนี้