นายมนต์สิทธิ์ ไพศาลธนวัฒน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสกลนคร มอบหมายให้นายพิสิษฐ์ แร่ทอง ปลัดจังหวัดสกลนคร พร้อมด้วย พล.ต.ต.นิพนธ์ พานิชเจริญ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสกลนคร และนายแพทย์สมิต ประสันนาการ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดสกลนคร แถลงผลการประชุมมาตรการของศูนย์ปฎิบัติการตอบโต้ภาวะฉุกเฉินโรคโควิด-19 จังหวัดสกลนคร โดยออกประกาศเพิ่มเติมของจังหวัดสกลนคร คำสั่งที่ 3 /2563 เรื่องการปิดสถานที่เสี่ยงต่อการแพร่ระบาดของโรคติดต่ออันตรายและมาตรการเฝ้าระวังควบคุมป้องกันการแพร่ระบาดเชื้อไวรัสโควิด-19 

1.ให้ปิดโรงแรมทุกประเภทที่ได้รับอนุญาตประกอบธุรกิจโรงแรม ตาม พรบ.2547 หรือสถานที่ที่ให้พำนักมีค่าตอบแทน มีผลตั้งแต่วันที่ 11-30 เมษายน 2563 กรณีที่ผู้เข้าพักได้เข้าพักก่อนคำสั่งให้ผู้เข้าพักออกจากห้องพักและปิดโรงแรมในทันที 
2.ให้ผู้ที่เดินทางมาจากต่างพื้นที่เพื่อมาพำนักในจังหวัดสกลนคร ให้ไปรายงานตัว ต่อ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน อสม.เพื่อตรวจโรคและซักประวัติหากพบว่ามาจากพื้นที่เสี่ยงใดสาธารณสุขจะประเมินเพื่อกักตัวสังเกตอาการเพื่อป้องกันการแพร่ระบาด

นอกจากนี้ทางตำรวจสกลนครได้ออกมาตรการดังนี้

1.ห้ามจัดงานสงกรานต์ในทุกระดับและห้ามเล่นน้ำสงกรานต์ เช่น ฉีดน้ำ สาดน้ำ  พ่นน้ำ ปะแป้ง ทุกพื้นที่ในจังหวัดสกลนคร
2.ห้ามมีการชุมนุม ทำกิจกรรมในสถานที่ใดๆ เกินกว่า 5 คน ลักษณะรวมตัวเพื่อพบปะสังสรรค์โดยมีเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทุกประเภทอันเป็นการเสี่ยงต่อการระบาดของโรคโควิด-19 มีผลบังคับใช้ 11-16 เมษายน 2563 

ส่วนการจัดประเพณีสงกรานต์ทางกระทรวงวัฒนธรรมได้กำหนดหลักเกณฑ์ไว้แล้วจึงขอความร่วมมือพี่น้องประชาชนไปศึกษาดูได้ และแน่นอนว่าสงกรานต์นี้ต้องมีคนกลับภูมิลำเนาดังนั้นการจะพบปะกันโดย 5 คน ขึ้นไปและมีเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในเคหะสถานก็ทำไม่ได้เช่นกันจึงชี้แจงให้ทราบ สำหรับมาตรการการจับกุมตั้งแต่มีการประกาศเคอร์ฟิว พบผู้ที่นำยานพาหนะมาฝ่าฝืนจำนวน 37 คัน จับกุมผู้ที่ฝ่าฝืนเคอร์ฟิวในช่วง 3 วันที่ผ่านมา จำนวน 40 ราย ข้อหามั่วสุมในที่สาธารณะจำนวน 19 ราย

นายแพทย์สมิต ประสันนาการ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดสกลนคร ยังยืนยันมีผู้ป่วยโรคโควิด-19 จำนวน 1 ราย พักรักษาตัวที่โรงพยาบาลศูนย์สกลนครโดยการดูแลของแพทย์อย่างใกล้ชิดขณะนี้อาการดีขึ้นตามลำดับ ทั้งนี้จังหวัดสกลนครมีผู้กักตัวกว่า 2 หมื่นคน โดยการทำงานอย่างเข้มแข็งของชุมชน 

อย่างไรก็ตามในช่วงสงกรานต์จะมีประชาชนกลับมาอีกในพื้นที่กว่า 1 หมื่นคน จึงอยากให้ครอบครัวนำคนที่กลับมาพาไปตรวจคัดกรองว่ามีความเสี่ยงสูงหรือไม่เพื่อจะได้รับการดูแลไม่ไปแพร่เชื้อในชุมชนหากมีการป่วยเกิดขึ้น ทั้งนี้คณะทำงานในจังหวัดสกลนคร ขอยืนยันว่าเรามีความมั่นใจว่าจะสามารถควบคุมเชื้อไวรัสโควิด-19 ไม่ให้ระบาดในวงกว้างจากมาตรการต่างๆที่บังคับใช้ ตลอดจนความร่วมมืออย่างดียิ่งของชาวจังหวัดสกลนคร