นายนิพนธ์ บุญญามณี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย(มท.2)​ เปิดเผยว่าในวันที่13เมษายนนี้จะลงพื้นที่ที่จังหวัดนราธิวาสเพื่อประชุมหาแนวทางในการช่วยเหลือคนไทยที่ไปทำงานในประเทศมาเลเซียและได้รับผลกระทบจากการปิดด่านชายแดนช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดไวรัสโคโรน่า2019((COVID-19) ทำให้ไม่สามารถเดินทางกลับประเทศไทยได้ ส่งผลกระทบต่อชีวิตความเป็นอยู่นั้น โดยหลังจากที่ทางการประเทศมาเลเซียได้ขยายเวลาปิดด่านต่อไปอีก จนถึงวันที่ 28 เม.ย.63 ทำให้คนไทยที่ไปทำงานที่ประเทศมาเลเซีย โดยเฉพาะในร้านต้มยำกุ้ง ได้รับความเดือดร้อนอย่างหนัก โดยประเมินกันว่าคนไทยที่ทำงานในกลุ่มนี้ยังติดอยู่เป็นจำนวนมาก ซึ่งก่อนหน้านี้ประเทศมาเลเซียได้ประกาศควบคุมสถานการณ์การแพร่ระบาดไวรัสโคโรน่า2019 (COVID-19)อย่างจริงจังและสั่งปิดด่านพรมแดนทั้งหมดมากว่า หลายสัปดาห์แล้ว แต่จากสถานการณ์ปัจจุบัน มีการเปิดเผยว่ารัฐบาลประเทศมาเลเซียจะขยายเวลาการปิดด่านพรมแดนต่อไปอีก โดยล่าสุดประกาศมาตรการควบคุมการสัญจร หรือ Movement Control Order (MCO) ไปจนถึงวันที่ 28 เม.ย.63 ส่งผลกระทบโดยตรงต่อคนไทยที่ยังติดค้างอยู่ในประเทศมาเลเซีย ทางการไทยจึงมีความกังวลในเรื่องชีวิตความเป็นอยู่ ซึ่ง ได้นำเรื่องดังกล่าวหารือในที่ประชุมครม.เมื่อวันอังคารที่ 7 เม.ย.63 ที่ผ่าน ถึงมาตรการช่วยเหลือดูแลคนไทยผ่านทางกระทรวงการต่างประเทศไปแล้ว
ตนจะลงพื้นที่เพื่อประชุมหารือแนวทางกำหนดมาตรการช่วยเหลือช่วยเหลือคนไทย ร่วมกับ ผวจ.นราธิวาส , กงสุลใหญ่ไทย ณ เมืองโกตาบารู ประเทศมาเลเซีย , นายด่านศุลกากรสุไหงโก-ลก , ผู้แทนตำรวจตรวจคนเข้าเมือง , นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดนราธิวาส ,  นายกเทศมนตรีเมืองสุไหงโก-ลก ฯลฯ อย่างเร่งด่วน โดยจะใช้สถานที่ด่านศุลกากรสุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส เป็นที่ประชุมร่วมกับทุกฝ่ายเพื่อแก้ไขปัญหาแบบครบวงจร โดยเฉพาะแรงงานไทยที่ตกค้างจะมีมาตรการช่วยเหลืออย่างครอบคลุมทุกกลุ่ม ซึ่งผมเองได้เคยเสนอในที่ประชุมคณะรัฐมนตรีที่ผ่านไปแล้วว่าให้แจกเงินคนไทยที่ติดอยู่ในต่างประเทศด้วย เพื่อบรรเทาความเดือดร้อน ซึ่งขณะนี้รัฐบาลกำลังพิจารณาหลักเกณฑ์ โดยการให้ความช่วยเหลือจะมีหลายรูปแบบ หลายช่องทาง แต่จะครอบคลุมทุกกลุ่มแน่นอน"
    และในช่วงบ่ายของวันเดียวกัน รมช.มท. จะเดินไปตรวจติดตามสถานการณ์โควิด-19 และเยี่ยมให้กำลังใจจนท.ฯ ของจังหวัดปัตตานีอีกด้วย