ศูนย์เตือนภัยพิบัติแห่งชาติ กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย(ปภ.)กระทรวงมหาดไทย ได้รายงานสถานการณ์วาตภัยในขณะนี้ มีสถานการณ์ความกดอากาศสูงจากประเทศจีนแผ่ลงมาปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือและทะเลจีนใต้ประกอบกับประเทศไทยมีอากาศร้อนถึงร้อนจัด และเกิดการปะทะกันของมวลอากาศเย็นและอากาศร้อนส่งผลให้ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก ภาคกลาง ในห้วงวันที่ 22 เม.ย.63 - ปัจจุบัน ทำให้เกิดพายุฝนฟ้าคะนองและลมกระโชกแรงในพื้นที่ 12 จังหวัด ประกอบด้วยจังหวัดน่าน ลําปาง มุกดาหาร กาฬสินธุ์ อํานาจเจริญ หนองคาย เลย เพชรบูรณ์ พิจิตร ร้อยเอ็ด นครราชสีมาและจังหวัดสุรินทร์ ครอบคลุมในพื้นที่ 28 อำเภอ 40 ตำบล 96 หมู่บ้าน บ้านเรือนประชาชนได้รับความเสียหาย 488 หลังคาเรือน เสาไฟฟ้า 18 ต้น คอกสัตว์ 1 แห่ง และมีผู้เสียชีวิต 3 รายที่(อ.คำชะอี จ.มุกดาหาร 1 ราย/อ.บัวใหญ่ จ.นครราชสีมา 2 ราย สาเหตุจากฟ้าผ่า) ซึ่งปัจจุบันสถานการณ์เริ่มคลี่คลายแล้วทุกจังหวัด
ในการนี้ นายนิพนธ์ บุญญามณี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย(มท.2) ได้สั่งการไปยังกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย(ปภ.) ผู้ว่าราชการจังหวัดในพื้นที่ประสบภัยฯ ให้ประสานกับองค์กรปกครองท้องถิ่น และผู้เกี่ยวข้อง เร่งให้เข้าช่วยเหลือผู้ได้รับผลกระทบจากพายุฤดูร้อนดังกล่าวใน 12 จังหวัดแล้ว โดยให้มีการเข้าซ่อมแซมบ้านเรือนของประชาชนที่ได้รับความเสียหายในทันที และจัดเครื่องอุปโภคและสิ่งจำเป็นเพื่อมอบให้แก่ผู้ประสบภัยฯ อีกด้วย ในส่วนของการจ่ายเงินเยียวยาผู้เสียชีวิตทั้ง 3 รายจากกรณีถูกฟ้าผ่า นั้น ได้สั่งการให้มีการเบิกจ่ายเงินตามระเบียบฯ พร้อมทั้งให้กาชาดจังหวัดมุกดาหารและจังหวัดนครราชสีมาออกเยี่ยมเยียนเพื่อปลอบขวัญและให้กำลังใจแก่ญาติผู้เสียชีวิต
ขณะเดียวกัน รมช.มท. ยังได้สั่งการให้ทุกพื้นที่มีความเสี่ยงต่อการเกิดเหตุวาตภัยขึ้นอีกให้การเตรียมความพร้อมอยู่ตลอด หากมีเกิดเหตุฯขึ้นอีก