ข้อเรียกร้องสุดท้ายในฐานะอดีตหัวหน้าพนักงาน

                ...เเม้นว่าจะออกมา 14 ปีแล้ว ก็ขอเรียกร้องไปถึงคณะกรรมการ ผู้บริหาร พนักงาน และสหภาพ ได้โปรดรับแนวคิดในการเริ่มต้น การกู้วิกฤตเพื่อพลิกผันให้ TG กลับสู่ความยั่งยืน เติบโตและเพิ่มพูนความสง่าผ่าเผยอีกครั้งของการบินไทยได้ด้วยหลักอย่างน้อย 5 ประการ คือ

1 รักษา..(อะไร?)

2 ลด/ละทิ้ง..(อะไร?)

3 เปลี่ยนแปลง..(อะไร?)

4 ต่อยอด..(อย่างใด?) และ

5 เคร่งครัด..(เรื่องใด?)

หลักคิดเพื่อการปฏิรูปทั้ง 5 ประการนี้ ผู้ซึ่งเกี่ยวข้องกับปัจจัยภายในบริษัททุกๆกลุ่ม ตั้งเเต่คณะกรรมการ ผู้บริหาร พนักงานเเละ สหภาพ(ส่วนผู้เกี่ยวข้องภายนอกก็คงต้องเเล้วเเต่ๆ ละท่าน) โดยแต่ละกลุ่ม จำเป็นต้องดำเนินการระดมสมอง รวบรวมความจริง การติชม รวมถึงเสียงเล่าลือ เล่าอ้าง ก็ไม่ละเว้น..เพื่อเป้าหมายในการมุ่งสร้างให้บังเกิดความโปร่งใสบริสุทธิ์ร่วมกันเเละเตรียมโจทย์/ทางออกไว้ก่อนเป็นประการเเรกสุด..นำไปสู่การปรับสร้างพื้นฐานเพื่อให้เกิดความเป็นองค์กรที่มีประสิทธิผล ..เเข่งขันได้..ในรูปเเบบใหม่ ให้โอกาสการบินไทยสร้างความยั่งยืนยาวในโลกใบใหม่ที่ผันผวน (Disruptive) ทั้งหลาย.. หลังจากที่การบินไทยได้ติดกับและจมปลักอยู่กับความคละเคล้าของความเป็นเลิศ+ความเป็นมาตรฐานที่เต็มไปด้วยรอยด่างดำเเละความเเก่เฒ่าจากภายใน ประกอบรวมกับการถูกเติมทั้งความเมตตา การให้กำลังใจ การสนับสนุนของผู้โดยสารเเละผู้ใหญ่ใจดีในด้านหนึ่ง และการใช้หรือถูกใช้ของอิทธิพล อำนาจด้านมืด การไร้ความเป็นธรรม จากปัจจัยของผู้มีอิทธิพลบางคนอีกทางหนึ่ง หล่อหลอมให้เกิดเป็นผลประกอบการ ที่มีดีบ้าง มีดีเลิศบ้าง ตกต่ำบ้าง และเลวร้ายบ้าง คละเคล้ากันตลอด 50 ปีที่ผ่านมา เกิดเป็นความสับสนมากมาย..เกิดเป็นภาพที่สังคมตกอยู่ในสภาพ "สองคนยลตามช่อง.." อย่างที่เป็นอยู่ในขณะนี้ จะคิดอย่างไรจะพูดติชมอย่างไรก็ถูกทั้งสิ้นเเหละครับ..

เเต่วันนี้..เดี๋ยวนี้คนการบินไทยต้องคิดกันเองเเล้ว..ว่ายังอยากมีเเละร่วมสร้าง"การบินไทยใหม่" (New TG)หรือไม่? ภายใตัการตระหนักรู้ว่าโลกได้เปลี่ยนไปหมดเเล้ว..เเละนานแล้วด้วย เป็นประการสำคัญ..!

ผู้มีอิทธิพลบางท่านก็ต้องหยุดเมตตาคนการบินไทยในทางที่ไม่สร้างสรรค์ ต้องหยุดฉกฉวยโอกาส หยุดใช้อำนาจ หยุดแสดงอิทธิพลเเละบารมี แต่ได้โปรดเกื้อกูล ส่งเสริมให้ TG ของเรา ยังสามารถรักษาความสง่าผ่าเผย ในฐานะองค์กรที่ได้เคยรับใช้ท่านและประเทศไทย ทั้งในยามสุขและยามทุกข์มาหลายสิบปี เพื่อว่าในอณาคต ผู้โดยสารที่เป็นเส้นเลือดหล่อเลี้ยง "การบินไทยใหม่"..จะได้ยังคงเต็มใจ มอบความสนับสนุนและอุปการะคุณในภารกิจ ของ"การบินไทยใหม่"ต่อไปนานๆ โดยไม่คิดจะทอดทิ้งเราเพียงเพราะค่าตั๋วเดินทางที่ถูกกว่าเเค่ 199 บาท..หากปราศจากคำมั่น เเละความต่อเนื่องในหลักอย่างน้อย 5 ประการ ที่กระผมเรียกร้องในฐานะที่เป็นพี่เป็นน้องของท่านทั้งหลายแล้ว ผมก็เชื่อมั่นว่า เงิน 8 หมื่นล้านหรือแสนล้านก็ไม่สามารถบันดาล ให้การบินไทยสามารถแข่งขันอย่างยั่งยืนได้ในโลกอนาคตเเละก็ต้องถึงเเก่อวสานไปในที่สุด..

ผมจึงเรียกร้องให้พวกเราทั้งหลาย ทั้งคนการบินไทยเองเเละผู้เป็นห่วงการบินไทย ที่เสมือนเป็นเจ้าของการบินไทยทุกคน ต้องช่วยกันถอดความใน 5 หลักคิดต่อไปให้จบในภารกิจที่สำคัญ ทั้งในด้าน การรักษา..+การละทิ้ง..+การเปลี่ยนแปลง..+การคิดต่อยอด..+ยึดมั่นอย่างเคร่งครัด..ให้จบเเละจับต้องได้อย่างจริงจังก่อนที่การสนับสนุน ด้านการเงินจะมาถึง

ผมหวังเป็นอย่างยิ่งว่า การเป็นกระจกเงาสะท้อน ความอ่อนหวานสวยงามบนอายตนะทั้ง 6..ที่อาจคละเคล้าด้วยความผิดพลาดเเละบิดเบี้ยวที่หลายๆ ท่าน/ภาคส่วนอาจได้เคยได้รับหรือถูกล่วงเกิน หรือร่วมกันก่อหรือส่งเสริม..จะด้วยความตั้งใจหรือไม่ตั้งใจก็ตามที..ก็เพียงขอว่า อย่าได้ทำลายกระจกเงาบานนี้เสีย..เพราะผมไม่สามารถเปลี่ยนแปลงอดีตที่การบินไทยเคยเป็น"บ้านเก่า"ที่ผมได้เคยเข้าไปช่วยซ่อมเเซมร่วมกับพี่น้องพนักงานอยู่ครบ 4 ปี เมื่อ18ปีที่เเล้ว..จะให้เพียงเเค่นั่งดูเฉยๆ จะใช่หรือ? เพราะความเป็น"บ้านเก่า"สำหรับผมนั้น มีความหมายมากกว่าเป็นเเค่ที่ซุกหัวนอน หรือเเค่เป็นศาลาพักร้อนครับ

ขออภัยหากได้ล่วงเกิน

.. เเละคงเป็นข้อความสุดท้ายที่ผมจะรบกวนเวลาของผู้ที่ยังรักเเละห่วงการบินไทยทุกท่านครับ

  กนก อภิรดี

อดีตหัวหน้าพนักงาน

บ.การบินไทยจำกัด(มหาชน)