ปากเสียงของคนท้องถิ่น เพื่อการพัฒนาประเทศ
สื่อสาร - คมนาคม ย้อนกลับ
คมนาคมแจงเฉือนเนื้อหมื่นล้าน ไม่กระทบแนลงทุนเมกะโปรเจ็กต์
18 พ.ค. 2563

การตัดลดงบประมาณปี 2563 ขอบทุกกระทรวงลง 10% เพื่อนำไปใช้ต่อสู้ภัยโควิด-19 ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 21 เม.ย. 2563 ที่ผ่านมานั้น โดยมียอดรวมประมาณ 100,395 ล้านบาทนั้น ในส่วนของกระทรวงคมนาคมมีอยู่ประมาณ 1.1 หมื่นล้านบาท โดยเป็นการตัดงบโครงการผูกพันลง 5% และส่งคืนงบของโครงการที่ยังไม่เปิดประมูล ถูกตัดมากสุด กรมทางหลวงและกรมทางหลวงชนบท ส่วนที่เหลือกระจายไปใน 13 หน่วยราชการ อย่างไรก็ตาม มีการยืนยันว่าไม่กระทบแผนการลงทุนเมกะโปรเจ็กต์

นายสราวุธ ทรงศิวิไล อธิบดีกรมทางหลวง (ทล.) เปิดเผยว่า กรมทำรายละเอียดปรับลดงบประมาณปี 2563 ลง 10% ของกรมทางหลวง เสนอไปยังกระทรวงคมนาคมพิจารณาก่อนเสนอให้สำนักงบประมาณพิจารณาเสร็จแล้ว ซึ่งสามารถลดลงได้ 7,200 ล้านบาท จากงบลงทุนใหม่ 72,000 ล้านบาท เป็นไปตามเป้าที่สำนักงบประมาณให้กรมดำเนินการ โดยโครงการที่ปรับลดงบประมาณ แบ่งเป็น 2 ส่วน รวม 300 กว่าโครงการ แยกเป็นโครงการใหม่ขนาดใหญ่ผูกพัน 2-3 ปี จำนวน 106 โครงการ ส่วนใหญ่เป็นงานก่อสร้างถนน 4-8 ช่องจราจร ทั่วประเทศ และในพื้นที่เขตเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EEC) จะตัดงบไป 5% ทุกโครงการ คิดเป็นวงเงินประมาณ 3,700 ล้านบาท ซึ่งสำนักงบประมาณจะจัดสรรงบถูกตัดไปคืนให้ในปี 2565

ส่วนโครงการที่ประมูลไม่ทัน จะเป็นโครงการขนาดเล็กใช้เวลาดำเนินการ 1 ปี ตามแผนการเบิกจ่ายจะต้องประมูลและเซ็นสัญญาภายในวันที่ 31 พ.ค.นี้ มีอยู่กว่า 230 โครงการ วงเงินประมาณ 3,500 ล้านบาท ที่ส่งให้สำนักงบประมาณพิจารณาตัดออกจากงบประมาณปี 2563 เป็นโครงการบำรุงรักษาทาง อำนวยความปลอดภัยและเพิ่มประสิทธิภาพถนนเดิม

นอกจากนี้ กรมยังเตรียมโครงการพร้อมดำเนินการก่อสร้างยื่นของบประมาณที่รัฐบาลจะออกเป็น พ.ร.ก.กู้เงิน จำนวน 1.9 ล้านล้านบาท เพื่อพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานในระดับพื้นที่ วงเงิน 400,000 ล้านบาท ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจชุมชนทั่วประเทศ เป็นโครงการซ่อมสร้างถนนใช้เวลาดำเนินการ 1 ปี จำนวนกว่า 2,000 โครงการ วงเงิน 30,000-40,000 ล้านบาท เป็นโครงการที่มีความจำเป็น ซึ่งกรมได้ยื่นขอจัดสรรงบประมาณปี 2564 แต่ไม่ได้รับจัดสรร กรมจะนำเสนอขอใช้เงินกู้

ขณะที่โครงการขนาดใหญ่เกิน 1,000 ล้านบาท รอดูหลักเกณฑ์จากสำนักงบประมาณจะให้ดำเนินการหรือไม่ จะเป็นโครงการขยายถนน 4 ช่องจราจรเป็นหลัก เพราะเป็นโครงการที่ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจระยะยาว และเป็นแกนหลักด้านโลจิสติกส์ของประเทศ จะเป็นโครงการที่กรมขอเสนอจัดสรรงบประมาณของปี 2564 แต่ไม่ได้รับอนุมัติเช่นกัน จากทั้งหมดที่กรมเสนอคำขอไป 188 โครงการ วงเงิน 137,055 ล้านบาท ได้รับจัดสรร 120 โครงการ วงเงินกว่า 60,000 ล้านบาท ยังเหลืออีก 68 โครงการ วงเงินกว่า 60,000-70,000 ล้านบาท กรมจะปัดฝุ่นโครงการนำมาเสนอของบประมาณจากเงินกู้แทน

นายสราวุธ กล่าวอีกว่า สำหรับงบประมาณปี 2564 กรมเสนอคำขอไปประมาณ 280,000 ล้านบาท คาดว่าจะได้รับจัดสรรประมาณ 120,000 ล้านบาท เท่ากับปี 2563 โดยจากมติ ครม. ให้ตัดงบลงทุนปี 2564 กรมปรับลดเสร็จแล้วจำนวน 289 ล้านบาท แยกเป็นงบดำเนินงาน ค่าสัมมนา อบรมและประชาสัมพันธ์ ลงอีก 25% จำนวน 39 ล้านบาท จาก 154 ล้านบาท และปรับลดจัดซื้อครุภัณฑ์ 50% จำนวน 250.5 ล้านบาท จากที่ได้รับจัดสรร 501 ล้านบาท

นายปฐม เฉลยวาเรศ อธิบดีกรมทางหลวงชนบท (ทช.) เปิดเผยว่า ในส่วนของกรมได้เสนอตัดงบประมาณปี 2563 จำนวน 2,053 ล้านบาท หรือคิดเป็น 4.46% ของงบประมาณที่ได้รับจัดสรรที่ 46,000 ล้านบาท จะเป็นส่วนของงบลงทุนปีเดียว เป็นงานซ่อมบำรุง จำนวน 419 โครงการ และเป็นโครงการที่อยู่ในขั้นตอนรอเซ็นสัญญา และบางส่วนยังอยู่ขั้นตอนประมูล

นายปฐมกล่าวอีกว่า เนื่องจากร่าง พ.ร.บ.รายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2564 ที่กำลังอยู่ระหว่างการพิจารณาของสำนักงบประมาณ ก็ถูกตัดงบลงทุนส่วนครุภัณฑ์ 50% และงบรายจ่ายประจำที่เกี่ยวกับการจัดงานสัมมนา การฝึกอบรม การประชาสัมพันธ์ การจ้างที่ปรึกษา และค่าใช้จ่ายในการเดินทางไปราชการต่างประเทศอีก 25% รวมแล้วประมาณ 500 ล้านบาท

โดยในปี 2564 กรมได้รับจัดสรรกรอบงบประมาณที่ 49,900 ล้านบาท เป็นงบลงทุน 45,000 ล้านบาท หรือคิดเป็น 95% ของงบประมาณทั้งหมด และในส่วนนี้เป็นงบลงทุนปีเดียว 37,000 ล้านบาท เพื่อซ่อมบำรุงรักษาถนนทั่วประเทศ หากถูกตัดงบฯลงไป 50% จะเหลืองบประมาณเพียง 18,500 ล้านบาท

นายทวี เกศิสำอาง อธิบดีกรมท่าอากาศยาน (ทย.) เปิดเผยว่า งบ 2563 กรมได้รับ 5,600 ล้านบาท ตัดไป 300 ล้านบาท เป็นงบประจำและงบผูกพันใหม่ ขณะที่ในส่วนของงบปี 2564 ที่ ครม.ให้ตัด 50% กรมอยู่ระหว่างพิจารณาร่วมกับสำนักงบประมาณ จะเป็นงบจัดซื้อครุภัณฑ์

ทั้งนี้ ปี 2564 กรมได้รับจัดสรรงบประมาณกว่า 6,000 ล้านบาท จะไม่กระทบกับงบฯลงทุนด้านการก่อสร้างโครงการใหญ่ มี 2 โครงการ ได้แก่ 1.ขยายความยาวรันเวย์ สนามบินบุรีรัมย์ เป็น 2,990 เมตร วงเงิน 900 ล้านบาท และขยายความยาวรันเวย์ สนามบินตรัง จาก 2,100 เมตร เป็น 2,990 เมตร วงเงิน 2,000 ล้านบาท

นายวรวุฒิ มาลา รักษาการผู้ว่าการการรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) เปิดเผยว่า งบที่ใช้ไม่ทันในปี 2563 จะส่งคืนให้สำนักงบประมาณไม่มาก ประมาณหลัก 100 ล้านบาท เพราะได้รับจัดสรรงบจากรัฐบาลประมาณ 1,000 ล้านบาทเท่านั้น เนื่องจากงบลงทุนของ ร.ฟ.ท.จะมาจากเงินกู้เป็นหลัก โดยงบที่จะส่งคืน เช่น งบจ้างที่ปรึกษาสำรวจเวนคืนที่ดินรถไฟทางคู่สายใหม่ ช่วงบ้านไผ่-มุกดาหาร วงเงิน 60 ล้านบาท ค่าเวนคืนรถไฟไทย-จีน กรุงเทพฯ-นครราชสีมา เป็นต้น ส่วนงบปี 2564 อยู่ระหว่างพิจารณา ซึ่งหากโครงการไหนที่ยังไม่เซ็นสัญญาก็ชะลอออกไปก่อน

ด้าน นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม กล่าวว่า กระทรวงอยู่ระหว่างรวบรวมข้อมูลและตัวเลขทั้งหมดที่จะลดงบลงทุนตามมติ ครม. โดยได้เร่งรัดให้ทุกหน่วยงานสรุปข้อมูลให้ได้โดยเร็ว ซึ่งในภาพรวมของกระทรวงแล้ว ไม่กระทบกับงบลงทุนโครงการขนาดใหญ่ แต่จะมีกระทบบ้างเฉพาะงบลงทุนปีเดียว แต่หากโครงการไหนที่ลงนามผูกพันงบประมาณไปแล้วจะไม่ถูกตัด

หนังสือพิมพ์ OPT NEWS ONLINE
วันที่ 16 - 30 พฤศจิกายน 2567
อปท.นิวส์เชิญเป็นแขก ดูทั้งหมด
12 ก.ย. 2567
กล่าวได้ว่าบทบาทของตำรวจไทยทั้งในอดีตและปัจจุบัน หลายท่านหลายคน หลังจากผ่านความเหน็ดเหนื่อย ความยากลำบากในการผดุงความยุติธรรม ไล่จับคนร้ายทั้งตัวใหญ่ตัวเล็กมาตลอดชีวิตราชการ เห็นความทุกข์ยาองประชาชน เห็นปัญหาของสังคมในทุกแง่มุม อดไม่ได้ที่หลังเกษียณจะก้าวเข้าส...