อาลีบาบา รายได้เติบโต 22% ทะลุ 450,000 ล้าน ช่วง 3 เดือนแรกของปีนี้ แม้เผชิญวิกฤตโควิด-19
เมื่อวันที่ 23 พ.ค. 63 บีบีซีรายงานว่า อาลีบาบา ยักษ์ใหญ่ด้านอี-คอมเมิร์ซจากจีน ระบุว่า บริษัทเห็นการฟื้นตัวอย่างมั่นคงในตลาดจีนนับตั้งแต่เดือนมีนาคม แต่เตือนว่าเส้นทางสู่การฟื้นตัวทางเศรษฐกิจยังคงไม่แน่นอน
รายงานผลประกอบการไตรมาสแรกของปีนี้ของอาลีบาบา ระหว่างเดือนมกราคมถึงมีนาคม สิ้นสุดวันที่ 31 มีนาคม รายได้รวมเพิ่มขึ้น 22% จากช่วงเดียวกันในปีก่อนเป็น 16,144 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 457,200 ล้านบาท ซึ่งถือว่าแข็งแกร่งกว่าที่คาดการณ์ไว้ อันเนื่องมาจากอุปสงค์สินค้าอุปโภคบริโภค สินค้าอิเล็กทรอนิกส์ และโดยเฉพาะอย่างยิ่ง cloud computing ได้แก่ เซิร์ฟเวอร์ ที่เก็บข้อมูล ฐานข้อมูล ระบบเครือข่าย และซอฟต์แวร์ ที่มียอดขายเพิ่มขึ้นกว่า 58% ขณะที่การหยุดชะงักของห่วงโซ่อุปทานและการสูญเสียการลงทุนมีผลต่อผลลัพธ์โดยรวม
ส่วนกำไรสุทธิลดลง 88% เป็น 447 ล้านดอลลาร์ โดยอาลีบาบาระบุว่า เกิดจากบันทึกขาดทุนในบริษัทจดทะเบียนที่ไปลงทุนไว้ ตามราคาตลาดหุ้นล่าสุด จำนวนฐานลูกค้าเพิ่มขึ้นเป็น 960 ล้านคนทั่วโลก และยอดขายสุทธิ ในปีการเงิน 2020 สิ้นสุดมีนาคม 2020 ทะลุ 1 ล้านล้านดอลลาร์เป็นครั้งแรก
อาลีบาบากล่าวถึงผลกระทบจากโควิด-19 โดยยังสามารถเติบโตได้ดี Tmall มียอดขายสินค้าภาพรวมเพิ่มขึ้น 10% เติบโตจากสินค้ากลุ่ม FMCG หรือสินค้าอุปโภคบริโภคที่เปลี่ยนแปลงรวดเร็ว ขณะที่เสื้อผ้า เฟอร์นิเจอร์ อุปกรณ์รถยนต์ ลดลง โดยเห็นแนวโน้มกลับมาเติบโตตั้งแต่เดือนเมษายน และเพิ่มขึ้นอีกในเดือนพฤษภาคม
นอกจากนี้ อาลีบาบายังบอกว่า การระบาดของโควิด-19 ทำให้พฤติกรรมออนไลน์เปลี่ยนไป โดยจำนวนการไลฟ์สตรีมขายสินค้า เพิ่มขึ้น 88%, ซูเปอร์มาร์เก็ต Freshippo มียอดขายจากออนไลน์ถึง 60%, แอปประชุม DingTalk มีผู้ใช้งานเฉลี่ย 155 ล้านคนต่อวัน
อย่างไรก็ตาม อาลีบาบายังเตือนให้ระมัดระวังถึงความไม่แน่นอน แต่แจ้งกับนักลงทุนว่า บริษัทคาดการณ์การเติบโตของรายได้ในอีก 12 เดือนข้างหน้า ว่าจะเติบโตราว 27%