ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ข้อกำหนดออกตามความในมาตรา ๙ แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. ๒๕๔๘(ฉบับที่ ๙)
ตามที่คณะรัฐมนตรีมีมติในการประชุมเมื่อวันที่ ๒๖ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๖๓ ให้ขยายระยะเวลาการบังคับใช้ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินในทุกเขตท้องที่ทั่วราชอาณาจักรออกไปตั้งแต่วันที่๑ มิถุนายน พ.ศ. ๒๕๖๓ จนถึงวันที่ ๓๐ มิถุนายน พ.ศ. ๒๕๖๓ นั้น
โดยที่ยังปรากฏการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด - 19) ในต่ำงประเทศและมีโอกาสจะแพร่เข้ามาในประเทศไทย เนื่องจากมีผู้เดินทางเข้ามาในราชอาณาจักรอย่างต่อเนื่องและพบว่ายังมีผู้ติดเชื้อดังกล่าว ประกอบกับองค์การอนามัยโลกได้เตือนว่าการผ่อนคลายความเข้มงวดหลายมาตรการและพร้อม ๆ กันในหลายประเทศอาจทำให้เกิดการแพร่ระบาดระลอกใหม่ได้ซึ่งเมื่อคำนึงถึงความเปลี่ยนแปลงของสภาพดินฟ้าอากาศและปัจจัยเสี่ยงจากบุคคล สถานที่ และประเภทของกิจกรรมบางอย่างแล้ว แม้ด้วยความร่วมมือจากภาครัฐและประชาชนทุกฝ่ำย สถานการณ์ในช่วงเวลาที่ผ่านมาจะดีขึ้น แต่ฝ่ายสาธารณสุข ฝ่ายปกครอง และฝ่ายความมั่นคงเห็นว่าในระยะหัวเลี้ยวหัวต่อซึ่งกำลังจะผ่อนคลายการบังคับใช้บางมาตรการในช่วงที่ ๓ นับจากนี้ไปให้มากขึ้นกว่าเดิมจนใกล้เคียงกับการดำเนินวิถีชีวิตตามปกติ ยังจำเป็นต้องติดตามดูแลสถานการณ์ในแต่ละพื้นที่ต่อไปให้สงบนิ่งอย่างต่อเนื่องจนเป็นที่วางใจได้อีกระยะหนึ่ง เพื่อว่าหากจำนวนผู้ติดเชื้อกลับเพิ่มหรือโอกาสเสี่ยงมีมากขึ้น จะได้ระงับหรือเปลี่ยนแปลงการผ่อนคลายบางส่วนหรือทั้งหมดได้ทันท่วงที
อาศัยอำนาจตามความในมาตรา ๙ แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉินพ.ศ. ๒๕๔๘ และมาตรา ๑๑ แห่งพระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน พ.ศ. ๒๕๓๔นายกรัฐมนตรีจึงออกข้อกำหนดเป็นการทั่วไปและข้อปฏิบัติแก่ส่วนราชการทั้งหลาย ดังต่อไปนี้
ข้อกำหนด ออกตามความในมาตรา ๙ แห่งพระราชกำหนด การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. ๒๕๔๘ (ฉบับที่ ๙)