ปากเสียงของคนท้องถิ่น เพื่อการพัฒนาประเทศ
สื่อสาร - คมนาคม ย้อนกลับ
คมนาคมผุด6มาตรการเดินทางยุค New Normal
30 พ.ค. 2563

นายชัยวัฒน์ ทองคำคูณ ปลัดกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า ตามที่ศูนย์บริหารสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. ได้มีมาตรการผ่อนปรน ระยะ 3 นั้น กระทรวงคมนาคมได้เตรียมออกแนวปฏิบัติการเดินทางวิถีชีวิตรูปแบบใหม่ (New Normal) ด้านคมนาคม ตามนโยบายนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เพื่อให้ผู้ให้บริการระบบขนส่งสาธารณะและผู้โดยสารนำไปปฏิบัติตาม ประกอบด้วย 6 ข้อ คือ 1.หน่วยงานผู้ให้บริการต้องมีการคัดกรองผู้โดยสารอย่างเคร่งครัด เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสฯ 2.ให้สวมใส่หน้ากากอนามัยตลอดระยะเวลาในการเดินทาง 

3.การเว้นระห่างทางสังคม (Social Distancing) ซึ่งในเรื่องนี้ยอมรับว่า อาจจะทำให้ผู้โดยสารต้องใช้เวลาในการรอเข้าใช้บริการระบบขนส่งสาธารณะมากขึ้น โดยเฉพาะรถไฟฟ้า แต่ทั้งนี้ เพื่อเป็นการป้องกันและลดการแพร่ระบาดการติดเชื้อไวรัสฯ 4.จุดให้บริการเจลแอลกอฮอล์ล้างมือ 5.การบันทึกข้อมูลของผู้โดยสารที่ต้องเดินทางระยะทางไกลหรือข้ามจังหวัดผ่านแอปพลิเคชั่น “ไทยชนะ” หากผู้โดยสารที่ไม่มีอุปกรณ์โทรศัพท์มือถือ ยังคงสามารถกรอกข้อมูลคำถามสุขภาพตามแบบ ต.8-คค. ได้ และ 6.ผู้ให้บริการระบบขนส่งสาธารณะต้องทำความสะอาดยานพาหนะก่อนที่จะนำออกมาให้บริการประชาชน เช่น รถเมล์ ขสมก., รถทัวร์ บขส., รถไฟ, รถไฟฟ้า เป็นต้น อย่างไรก็ตาม แนวทางปฏิบัติ 6 ข้อดังกล่าวนั้น เป็นเรื่องที่กระทรวงคมนาคมได้ดำเนินการอยู่แล้ว และจะเป็นการประชาสัมพันธ์แนวทางการปฏิบัติให้ผู้โดยสารอย่างเป็นทางการ

“หลังจากที่ ศบค. ได้ผ่อนปรนระยะ 3 แล้วนั้น คาดว่าจำนวนผู้โดยสารที่จะเดินทางด้วยบระบบขนส่งสาธารณะจะเพิ่มขึ้น ซึ่งกระทรวงคมนาคม ได้สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องมอนิเตอร์ตัวเลขที่เพิ่มขึ้น และติดตามผลกระทบหลังจากมีการคลายล็อคดังกล่าวด้วย พร้อมทั้งขอความร่วมมือส่วนราชการและรัฐวิสาหกิจทำงานอยู่บ้าน (Work From Home) และเหลื่อมเวลาการทำงาน เพื่อลดความหนาแน่นในการเดินทาง” นายชัยวัฒน์ กล่าว


นายจิรุตม์ วิศาลจิตร อธิบดีกรมการขนส่งทางบก (ขบ.) เปิดเผยว่าได้มีการหารือร่วมกับผู้ประกอบการรถร่วมโดยสารเอกชน เพื่อรวบรวมความคิดเห็นในการให้บริการ หลังจากรัฐบาลได้ผ่อนคลายมาตรการ ระยะที่ 3 ไปแล้วในวันที่ 29 พ.ค.นี้ ซึ่งภาพรวมผู้ประกอบการได้แสดงความประสงค์ที่จะกลับมาทยอยเดินรถมากขึ้น โดยในส่วนของกรมการขนส่งทางบก ได้แจ้งผู้ประกอบการให้ทราบว่า การอนุญาตให้เดินรถให้บริการหลังจากนี้ จะยังมีลักษณะค่อยๆผ่อนคลาย เนื่องจากขณะนี้ยังมี พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ ประกาศ ฉบับที่ 5 ข้อที่ 5 ที่ให้ประชาชนชะลอหรืองดการเดินทางข้ามจังหวัดอยู่ 

อย่างไรก็ตามโดยในส่วนของผู้ประกอบการโดยเฉพาะรถร่วมบริการ ที่มีความประสงค์จะเริ่มทยอยเปิดเดินรถนั้น ในส่วนนี้ให้แจ้งความประสงค์ให้กับบริษัท ขนส่ง จำกัด หรือ บขส. ในฐานะผู้ให้สัมปทานเส้นทาง รวมทั้งนำรายงานให้ ปลัดกระทรวงคมนาคมในฐานะหัวหน้าผู้รับผิดชอบในการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับการคมนาคม-การขนส่งทั่วราชอาณาจักร เพื่อทำการอนุญาตเดินรถเป็นกรณีไป

นอกจากนี้ยังมีประเด็นที่ผู้ประกอบการเอกชน เสนอที่จะปรับลดความเข้มงวดของมาตรการ Social Distancing บนรถโดยสาร โดยให้ผู้เดินทางสามารถนั่งโดยสารได้ทุกเบาะ โดยผู้ประกอบการได้เสนอที่จะมีการติดตั้งอุปกรณ์ ฉากกั้นระหว่างที่นั่ง เพื่อให้รถโดยสารแต่ละคันสามารถรองรับผู้เดินทางได้มากขึ้น ผู้ประกอบการมีความคุ้มทุนในการเดินรถให้บริการ พออยู่ได้ หลังจากที่ความเข้มงวดในช่วงที่ผ่านมา ทำให้ผู้ประกอบการส่วนใหญ่ต้องหยุดเดินรถไปเอง 

สำหรับประเด็นการผ่อนคลายเรื่องของการเดินรถที่อยู่ในช่วงเวลาเคอร์ฟิว 23.00-03.00น ที่ผู้ประกอบการขอผ่อนคลายให้สามารถเดินรถได้ แต่มีเงื่อนไขไม่ให้มีการแวะรับส่งผู้โดยสารในช่วงเวลาดังกล่าว โดยให้รถสามารถรับส่งผู้โดยสารได้ตามจุดและสถานีต่างๆ ที่อยู่นอกเวลาคือฟิวส์เท่านั้น โดยข้อเสนอ ของผู้ประกอบการเหล่านี้ กรมการขนส่งทางบก จะมีการรวบรวมเสนอทั้งกระทรวงคมนาคม และศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค.(ชุดเล็ก) เพื่อพิจารณาต่อไปด้วย

ด้านนายนิรุฒ มณีพันธ์ ผู้ว่า การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.)ระบุว่า ในส่วนของการรถไฟฯ แม้ว่ารัฐบาลจะมีการผ่อนคลายมาตรการในระยะที่ 3 แต่การรถไฟจะต้องติดตามรายละเอียดของมาตรการต่อไป  โดยเฉพาะมาตรการควบคุมพื้นที่ของแต่ละจังหวัด รวมทั้งการคง พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯที่มีอยู่ ซึ่งจำกัดการเดินทางข้ามจังหวัดไว้  โดยเฉพาะในช่วงเวลาเคอร์ฟิว เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาเมื่อผู้โดยสารเดินทางไปถึงปลายทางและไม่สามารถเดินทางต่อ, หรือออกจากสถานีไม่ได้ ดังนั้นการที่ กาารถไฟฯ จะกลับมาเดินรถสายยาวเพิ่มขึ้นหรือไม่ หลังรัฐบาลประกาศผ่อนคลายมาตรการระยะที่ 3 การรถไฟฯ จะขอติดตามรายละเอียดของมาตรการเหล่านี้ต่อไปอีกระยะหนึ่ง

ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่าสำหรับบริการเดินรถโดยสารของ บขส. ซึ่งปัจจุบันนี้เดินรถบริการอยู่ประมาณ 15 %ของจำนวนเที่ยวรถปกติ หรือวันละกว่า 1,300 เที่ยว  และมีผู้โดยสารใช้บริการกว่าวันละ 8,000 คน  โดย บขส.ประเมินว่าเมื่อรัฐบาล มีการผ่อนคลายมาตรการในระยะที่ 3 แล้ว บขส.จะกลับมาเดินรถได้เพิ่มขึ้น ประมาณ 30% ของเที่ยวรถปกติ

หนังสือพิมพ์ OPT NEWS ONLINE
วันที่ 16 - 30 พฤศจิกายน 2567
อปท.นิวส์เชิญเป็นแขก ดูทั้งหมด
12 ก.ย. 2567
กล่าวได้ว่าบทบาทของตำรวจไทยทั้งในอดีตและปัจจุบัน หลายท่านหลายคน หลังจากผ่านความเหน็ดเหนื่อย ความยากลำบากในการผดุงความยุติธรรม ไล่จับคนร้ายทั้งตัวใหญ่ตัวเล็กมาตลอดชีวิตราชการ เห็นความทุกข์ยาองประชาชน เห็นปัญหาของสังคมในทุกแง่มุม อดไม่ได้ที่หลังเกษียณจะก้าวเข้าส...