ทั้งนี้ จาการลงพื้นที่แปลงเกษตรสวนผสมผสานของนายสุบิน ลิกุล และนางเมง ลิกุล บ้านหลุบเลา ต.หลุบเลา  อำเภอภูพาน จังหวัดสกลนคร ของ นายชัยมงคล ไชยรบ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) สกลนคร เพื่อติดตามผลสำเร็จในการปลูกทุเรียน เงาะและมังคุด ไม้ผลทางเศรษฐกิจที่มีราคาแพง พบว่าสามารถปลูกได้และเจริญเติบโตได้ดีในพื้นที่เขาภูพาน โดยในเรื่องรสชาดถือได้ว่า ทุเรียน มังคุด และเงาะภูพานมีรสชาดดี หากมีการส่งเสริมสนับสนุนให้เกษตรกรหันมาปลูก ทุเรียน มังคุด เงาะ เชื่อว่าในอนาคตอันใกล้ อำเภอภูพานจะเป็นตลาดผลไม้ที่สร้างเศรษฐกิจ สร้างชื่อเสียง สร้างรายได้ให้กับประชาชนได้อย่างแน่นอน 

นายชัยมงคล ไชยรบ กล่าวว่า ในเรื่องของการปลูกทุเรียน ที่ผ่านมาเกษตรกรได้รับข้อมูลที่ผิดมาตลอด โดยมองว่า ภาคอีสานเป็นดินแดนที่แห้งแล้ง ไม่สามารถปลูกทุเรียนได้ แต่ปัจจุบันนี้พิสูจน์ได้แล้วว่า พื้นที่เทือกเขาภูพานสกลนคร เป็นดินแดนที่สมบูรณ์และเหมาะสมกับการปลูกทุเรียนเป็นอย่างยิ่ง 

“มีเกษตรกรสามารถปลูกและให้ผลผลิตออกสู่ตลาดแล้วมากมาย ทุเรียนที่ปลูกบนเทือกเขาภูพานสกลนคร ลูกใหญ่ รสชาดหวานนุ่ม ไม่แพ้ทุเรียนเมืองจันทบุรี ไม่แพ้ทุเรียนภูเขาไฟศรีสะเกษแน่นอน การลงพื้นที่ส่วนทุเรียนในครั้งนี้  เพื่อมาดูความสำเร็จของเกษตรกรเพื่อจะได้นำไปต่อยอด ในอนาคตจะมีการส่งเสริมให้เกษตรกรหันมาปลูกทุเรียน มังคุด เงาะ ลำใย องุ่น กันอย่างเป็นระบบ เชื่อว่าในอนาคตอันใกล้นี้ อำเภอภูพาน  จังหวัดสกลนคร จะเป็นตลาดผลไม้ที่สร้างเศรษฐกิจ สร้างชื่อเสียง สร้างรายได้ให้กับประชาชนได้ฎ

นอกจากนี้ ยังถือเป็นการส่งเสริมให้พี่น้องเกษตรกร หันมาทำเกษตรแบบทฤษฎีใหม่ ตามแนวเศรษฐกิจพอเพียงของในหลวงรัชการที่ 9 โดยในส่วนทุเรียนก็สามารถปลูกแซมกับมังคุด ลำไย เงาะ และผลไม้อื่นๆ ได้อีกด้วย นอกจากนี้ ยังเป็นการสร้างพื้นที่ป่าให้กลับมาอุดมสมบูรณ์ สร้างงานให้ประชาชนไม่ต้องเดินทางไปทำงานต่างจังหวัด เพราะอยู่บ้านตัวเองก็สามารถมีรายได้เลี้ยงครอบครัว นายก อบจ.สกลนคร กล่าว

                ด้าน นางเมง ลิกุล เจ้าของสวนเกษตรสวนผสมผสาน กล่าวว่า ตัวเองมีที่ดินจำนวน 15 ไร่ ได้แบ่งพื้นที่ทำสวนเกษตรแบบผสมผสาน คือปลูกพืชและไม้ผลทุกอย่างที่สามารถสร้างรายได้ แบ่งไปปลูกยางพารา จำนวน 7 ไร่ ปลูกมังคุด180 ต้น ปลูกทุเรียน 20 ต้น นอกนั้นก็ปลูกพืชสวนครัว ในแต่ละเดือนทำให้มีรายได้หมุนเวียน จากการทำสวนเกษตรผสมผสานนี้กว่า 10,000 -15,000 บาท ถือว่าสามารถเลี้ยงตัวเองและสมาชิกในครอบครัวได้

“ในส่วนของมังคุด ปลูกไว้ จำนวน 180 ต้น สามารถเก็บผลผลิตของขายยังตลาดได้แล้ว สำหรับทุเรียนที่ปลูกในสวน เป็นพันธ์หมอนทอง อายุ 6 ปี  มีจำนวน 20 ต้น ตอนนี้ก็ทยอยเก็บผลผลิตออกไปจำหน่ายยังตลาด การปลูกทุเรียนนั้น ปลูกไม่ยาก แต่ต้องเอาใจใส่ เมื่ออายุได้ 5 ปีก็เริมออกลูก ถือว่าเป็นพืชตัวใหม่ที่สวนกำลังจะปลูกเพิ่มในอนาคตจะมีการปลูกเงาะเพิ่มอีก” นางเมง กล่าวในที่สุด