เขียนให้คิด : โดย ซีศูนย์ 

ลักษณะความผิดร้ายแรง

สวัสดีครับท่านผู้อ่าน ตอนนี้เริ่มคลายล็อกโควิท-19 บางส่วนแล้วนะครับ บรรยากาศเดิมๆ เริ่มเกิดขึ้นอีก ไม่

ว่ารถราขวักไขว่มากขึ้น ผู้คนออกไปจับจ่ายตามศูนย์การค้ามากขึ้น แต่ยังดีที่ยังใส่แมสกันทุกคน หวังว่ารอบ 2 คงไม่มานะครับ

ก่อนจะเล่าเรื่อง ป.ป.ช.ต่อ ผู้อ่านอาจจะไม่ค่อยสนใจข่าวเล็กๆ ที่ผ่านไปเมื่อเมษายน 2563 โดยองค์กรสื่อไรhพรมแดน (RSF) ที่มีฐานปฏิบัติการในกรุงปารีส จัดทำดัชนีเสรีภาพสื่อประจำปี 2563 จาก 180 ประเทศทั่วโลก ปรากฏว่านอร์เวย์ มีเสรีภาพสื่อมากเป็นอันดับ 1 เป็นเวลา 4 ปีซ้อน ตามมาด้วยฟินแลนด์ สวีเดน และเนเธอร์แลนด์ ตามลำดับ

ประเทศที่เสรีภาพสื่อต่ำที่สุดคือ เกาหลีเหนือ รองลงมาคือ เตอร์กเมนิสถานและเอริเทรีย ส่วนประเทศที่มีพัฒนาการด้านเสรีภาพสื่อดีที่สุด ได้แก่ มาเลเซีย (อันดับ 101) และมัลดีฟส์ (อันดับ 79) และซูดาน (อันดับ 159) ตามลำดับ ส่วนไทยอยู่ในอันดับที่ 140 ลดลงมาจากปีก่อน 4 อันดับ โดย RSF วิเคราะห์ในเรื่องการเมืองและการบังคับใช้กฎหมายที่ยังเป็นปัญหาสำหรับเมืองไทยเรา

แต่ที่น่าสังเกตประการหนึ่งที่เกี่ยวกับการคอร์รัปชันแล้วจะสะท้อนให้เห็นว่า กลุ่มประเทศนอร์ดิค ซึ่งมีเสรีภาพทางสื่อมากที่สุดนั้น จะมีการทุจริตน้อยเมื่อเทียบกับดัชนีชี้วัดความโปร่งใส (Corruption Perception Index) ในแต่ละปีขององค์กรเพื่อความโปร่งใสนานาชาติ ซึ่งกลุ่มประเทศนอร์ดิคจะอยู่อันดับต้นๆ ทุกปี

นั่นย่อมหมายถึงว่า ประเทศใดที่เสรีภาพสื่อมาก จะช่วยเปิดโปงการทุจริตให้ประชาชนได้ทราบอีกทางหนึ่ง เมื่อไทยได้อันดับ 140 การเปิดโปงเรื่องทุจริตมีมากน้อยแค่ไหนเราคงทราบกันดีนะครับ 

คราวนี้เรามาต่อเรื่องที่อะไรที่ ป.ป.ช.เห็นว่า ไม่ใช่ความผิดร้ายแรง เพื่อส่งให้หน่วยงานอื่นทำแทน ป.ป.ช.เขา

กำหนดในคำสั่งคณะกรรมการ ป.ป.ช.เรื่องแนวทางในการพิจารณาเรื่องกล่าวหาที่มีลักษณะเป็นความผิดร้ายแรง อยู่ในหน้าที่และอำนาจของ ป.ป.ช.ร้ายแรงว่ามีอะไรบ้าง เขากำหนดไว้อย่างนี้ครับ

(1) เรื่องกล่าวหาเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติ ที่ดิน สิ่งแวดล้อม หรือประโยชน์สาธารณะที่สำคัญ

 (2) เรื่องที่มีหรืออาจมีผลกระมทบอย่างรุนแรงต่อความสงบเรียบร้อยหรือศีลธรรมอันดีของประชาชน ความ

มั่นคงของชาติ ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ หรือระบบเศรษฐกิจหรือการคลังของประเทศ

(3) เรื่องกล่าวหาที่สำคัญระดับประเทศที่อยู่ในความสนใจของประชาชน

(4) เรื่องกล่าวหาที่มีผู้ทรงอิทธิพลที่สำคัญมีส่วนเกี่ยวข้องกับคดีหรือเรื่องที่กล่าวหา

(5) เรื่องกล่าวหาที่สำคัญและเป็นการกระทำความผิดข้ามชาติ หรือมีเจ้าหน้าที่ของรัฐต่างประเทศ หรือเจ้า

หน้าที่ขององค์การระว่างประเทศมีส่วนเกี่ยวข้อง

(6) เรื่องกล่าวหาที่เกี่ยวกับการจัดซื้อจัดจ้างที่มีวงเงินงบประมาณเกินกว่า 2,000,000 บาทขึ้นไป หรือมี

มูลค่าความเสียหายเกินกว่า 500,000 บาทขึ้นไป และอาจก่อให้เกิดความเสียหายแก่ทางราชการอย่างกว้างขวาง

(7) เรื่องกล่าวหาที่เกี่ยวกับการที่รัฐ หน่วยราชการ หน่วยงานของรัฐ รัฐวิสาหกิจ หรือราชการส่วนท้องถิ่นให้

สัมปทานที่มีลักษณะเป็นการให้ประโยชน์โดยมิชอบที่คณะกรรมการ ป.ป.ช.พิจารณาเห็นว่าเป็นเรื่องที่มีลักษณะร้ายแรง

(8) เรื่องกล่าวหาที่มีผลกระทบต่อระบบบริหารราชการในภาพรวม แม้ไม่อาจคำนวณมูลค่าความเสียหาย

เป็นตัวเงินได้

(9) เรื่องกล่าวหาอื่นที่คณะกรรมการ ป.ป.ช.พิจารณาแล้วเห็นว่า มีลักษณะเป็นความผิดร้ายแรง

ตามคำสั่งนี้ ยังกำหนดไว้อีกว่า กรณีกล่าวหาที่มีลักษณะความผิดข้างต้น หากคณะกรรมการ ป.ป.ช.เห็นว่า ลักษณะความผิดร้ายแรงดังกล่าว พฤติการณ์แห่งคดีได้เปลี่ยนแปลงไปหรือมีเหตุอื่น คณะกรรมการฯ อาจพิจารณาว่าเป็นเรื่องที่มิใช่เป็นความผิดร้ายแรงตามคำสั่งนี้ก็ได้ นอกจากนี้ คำสั่งดังกล่าวยังได้ระบุถึงปัญหาการตีความว่าเรื่องร้ายแรงอย่างไรหรือไม่นั้น คำสั่งได้ระบุชัดเจนว่า กรณีที่มีปัญหาการบังคับใช้หรือการปฏิบัติตามคำสั่งนี้ ให้คณะกรรมการ ป.ป.ช.มีอำนาจตีความและวินิจฉัยชี้ขาดและคำวินิจฉัยนั้นให้เป็นที่สุด

ท่านผู้อ่านจะเห็นว่า ป.ป.ช.มีการไต่สวนเรื่องการบุกรุกป่าไม้ ทะเล แม่น้ำลำคลอง ซึ่งเป็นสาธารณประโยชน์ของแผ่นดินที่นับวันร่อยหรอลงไปมาก แต่เดิมตั้งแต่ ป.ป.ป.มาจนถึง ป.ป.ช.หลายครั้งที่เรื่องร้องเรียนประเภทนี้ถูกส่งไปให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับผิดชอบไปตรวจสอบ แต่กลับมีการช่วยเหลือให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องพ้นผิดกันเป็นจำนวนมาก

และเป็นเช่นนี้มาตั้งแต่ครั้งที่ยังเป็น ป.ป.ป. มาจนปัจจุบันก็ยังมีอยู่บ่อย เช่น นายทุนบางรายต้องการออกเอกสารสิทธิเป็นโฉนด หรือเมื่อก่อนมีการเดินสำรวจเพื่อออก น.ส.3 ก. โดยความร่วมมือของเจ้าหน้าที่ที่ดินบางคนหรือผู้ปกครองท้องที่บางคนนำเอา ส.ค.1 ที่เคยนำไปออกเอกสารสิทธิมาก่อน แล้วหรือนำเอา ส.ค.1 จากท้องที่อื่นที่เรียก ส.ค.บินมาเป็นหลักฐานประกอบการออกเอกสารสิทธิโดยทุจริต

ในเขตป่าไม้ ป่าสงวน ภูเขาทั้งที่โดยสภาพของป่าไม้ ภูเขาไม่สามารถออกเอกสารสิทธิในที่ดินได้ โดยมีการ

เรียกรับผลประโยชน์เป็นจำนวนมาก ซึ่งปัจจุบันเรื่องเหล่านี้ยังคงมีการร้องเรียนหลายพื้นที่ที่เป็นที่ท่องเที่ยวเพื่อทำธุรกิจรีสอร์ท ดังนั้นแล้ว เรื่องประเภทนี้ย่อมมีผลกระทบต่อประโยชน์สาธารณะอย่างหาค่าไม่ได้

ป.ป.ช.จึงถือเป็นเรื่องร้ายแรงที่จะต้องดำเนินการเองมากกว่าที่จะส่งหน่วยงานที่รับผิดชอบไปทำ และ

ประสบผลสำเร็จอยู่หลายเรื่องครับ ตอนหน้าจะเล่ากรณีศึกษาที่เกิดขึ้นและ ป.ป.ช.ชี้มูลเรื่องประเภทนี้ให้ฟัง

ต่อนะครับ