ที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) นายนิวัติไชย เกษมมงคล รองเลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ในฐานะโฆษกสำนักงาน ป.ป.ช. กล่าวถึงความคืบหน้าภายหลังคณะกรรมการ ป.ป.ช. มีมติชี้มูลนายวิรัช รัตนเศรษฐ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ และประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล (วิปรัฐบาล) คดีทุจริตจัดสรรงบประมาณโครงการก่อสร้างสนามฟุตซอลใน จ.นครราชสีมา ว่า ขณะนี้คดีดังกล่าวอยู่ระหว่างการพิจารณาของอัยการสูงสุด (อสส.) ว่าจะสั่งฟ้องหรือไม่ โดยตาม พ.ร.บ.ป.ป.ช. อสส. มีเวลาพิจารณาสำนวน 180 วัน และขยายเวลาได้อีก 90 วัน

เมื่อถามว่า หาก อสส. พิจารณาแล้วไม่ฟ้อง ป.ป.ช. จะฟ้องเองหรือไม่นั้น นายนิวัติไชย กล่าวว่า ตามกฎหมายให้อำนาจ ป.ป.ช. ยื่นฟ้องเองได้ โดยที่ผ่านมาส่วนใหญ่แทบไม่มีคดีที่ ป.ป.ช. ชี้มูลแล้วจะไม่ฟ้อง เว้นแต่คดีจัดซื้อจัดจ้างการติดตั้งเครื่องตรวจสอบวัตถุระเบิด (ซีทีเอกซ์) สนามบินสุวรรณภูมิ

เมื่อถามว่า หลายฝ่ายกังวลว่าอาจมีความพยายามหาช่องช่วยเหลือนายวิรัช นายนิวัติไชย กล่าวว่า ในมุมของ ป.ป.ช. ไม่มีเรื่องนี้ เพราะถ้ามีคงไม่ชี้มูลมาตั้งแต่ต้น หาก อสส. มีคำสั่งไม่ฟ้อง ตามกฎหมาย ป.ป.ช. จะมีเวลา 90 วัน ในการพิจารณาว่าจะสั่งฟ้องต่อศาลเองหรือไม่

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับคดีของนายวิรัช รัตนเศรษฐ ถูกคณะกรรมการ ป.ป.ช. ชี้มูลความผิดรวม 7 สำนวน กรณีถูกกล่าวหาว่าทุจริตในการจัดสรรงบประมาณก่อสร้างสนามฟุตซอลในเขตพื้นที่การศึกษา จ.นครราชสีมา สังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) โดยสำนวนแรกในเขตพื้นที่การศึกษาที่ 2 คณะทำงานร่วมระหว่างฝ่ายอัยการ และฝ่าย ป.ป.ช. มีความเห็นควรสั่งฟ้องไปแล้วเมื่อวันที่ 8 มิ.ย. 2563 ที่ผ่านมา ปัจจุบันอยู่ระหว่างการพิจารณาของ อสส. ชี้ขาด ส่วนอีก 6 สำนวนที่เหลืออยู่ระหว่างการพิจารณาของ อสส. เช่นกันว่าจะฟ้องหรือไม่ หรือหากเห็นว่าสำนวนไม่สมบูรณ์สามารถตั้งคณะทำงานร่วมระหว่างฝ่ายอัยการ และฝ่าย ป.ป.ช. พิจารณาข้อไม่สมบูรณ์เหมือนสำนวนแรกได้