แพทย์หญิงพรรณพิมล วิปุลากร อธิบดีกรมอนามัย กล่าวว่า กระทรวงสาธารณสุขร่วมมือกับกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา โดยการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ขับเคลื่อนการดำเนินงานมาตรฐานความปลอดภัยด้านสุขอนามัย Amazing Thailand Safety & Health Administration : SHA เพื่อสร้างมาตรฐานความปลอดภัยด้านสุขอนามัยให้เป็นแนวทางปฏิบัติสำหรับผู้ประกอบกิจการทั้ง 10 ประเภท ได้แก่ 1) ภัตตาคาร ร้านอาหาร 2) โรงแรม ที่พัก สถานที่จัดประชุม 3) นันทนาการและสถานที่ท่องเที่ยว 4) ยานพาหนะ 5) บริษัทนำเที่ยว 6) สุขภาพและความงาม 7) ห้างสรรพสินค้าและศูนย์การค้า 8) กีฬาเพื่อการท่องเที่ยว 9) การจัดกิจกรรม จัดประชุม โรงละคร โรงมหรสพ และ 10) ร้านค้าของที่ระลึกและร้านค้าอื่น ๆ ให้เกิดการยกระดับมาตรฐานอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว รวมทั้งสร้างวิถีชีวิตใหม่ (New Normal) ในการป้องกันโรคของนักท่องเที่ยวและประชาชนที่ใช้บริการโดยมีมาตรการเบื้องต้นของทุกสถานประกอบการ 3 ด้านคือ 1) ด้านสุขลักษณะอาคารและอุปกรณ์เครื่องใช้ที่มีอยู่ในอาคาร 2) ด้านการจัดอุปกรณ์ทำความสะอาดเพื่อป้องกันการแพร่กระจายเชื้อโรค และ 3) ด้านการป้องกันสำหรับเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงาน
แพทย์หญิงพรรณพิมล กล่าวต่อไปว่า การดำเนินงานที่ผ่านมา กรมอนามัยได้มีส่วนร่วมในการจัดทำมาตรฐาน SHA โดยนำหลักเกณฑ์ต่าง ๆ ทั้งด้านสุขอนามัยและอนามัยสิ่งแวดล้อมของกรมอนามัย เช่น การจัดการคุณภาพอากาศภายในอาคาร การจัดการขยะ ส้วม สุขาภิบาลอาหารในโรงแรม ร้านอาหาร เป็นต้น รวมถึงการให้คำปรึกษา คำแนะนำด้านวิชาการเกี่ยวกับการดำเนินการตามมาตรฐาน SHA แก่ผู้ประกอบการ ภายใต้พระราชบัญญัติการสาธารณสุข พ.ศ. 2535 เช่น กิจการโรงแรมหรือที่พัก ซึ่งมีแนวปฏิบัติด้านสาธารณสุขในการจัดการด้านสิ่งแวดล้อมในโรงแรม ข้อปฏิบัติสำหรับผู้ปฏิบัติงานและผู้รับบริการในช่วงระบาดของโรคโควิด 19 และสำหรับในส่วนภัตตาคาร ร้านอาหาร มีคำแนะนำสำหรับผู้จัดการร้านอาหาร คำแนะนำสำหรับผู้สัมผัสอาหารหรือผู้ปฏิบัติงาน และคำแนะนำสำหรับผู้บริโภคให้ปฏิบัติการอย่างเคร่งครัด
“ทั้งนี้ มาตรฐาน SHA ถือเป็นมาตรฐานความปลอดภัยด้านสุขอนามัยเพื่อนักท่องเที่ยว ที่สามารถตรวจสอบสถานประกอบการ หรือกิจการที่ได้รับการอนุญาตให้เปิดบริการแล้ว พร้อมทั้งให้ข้อเสนอแนะ เพื่อการปรับปรุงและพัฒนาผ่านระบบออนไลน์ของการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) โดยจะมีการสุ่มตรวจประเมินสถานประกอบการโดยหน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้องเป็นระยะ ๆ เป็นการกระตุ้นให้สถานประกอบการในอุตสาหกรรมท่องเที่ยวได้เตรียมความพร้อมกับวิถีชีวิตใหม่ (New Normal) รวมถึงสร้างมาตรฐานความปลอดภัยด้านสุขอนามัย ทั้งในส่วนของผู้ประกอบการ ผู้ให้บริการ และผู้รับบริการ เพื่อลด ความเสี่ยงจากการแพร่กระจายของโรคโควิด 19” อธิบดีกรมอนามัย กล่าวในที่สุด