นายไกรฤทธิ์ อุชุกานนท์ชัย ประธานกรรมการ(บอร์ด) บริษัท ปตท. จำกัด(มหาชน) เปิดเผยภายหลังการประชุมผู้ถือหุ้นเมื่อวันที่ 3 ก.ค. 2563 ว่า แนวโน้มการดำเนินงานของบริษัทในปีนี้มีโอกาสที่จะทำกำไรได้ต่ำกว่าระดับ 92,951 ล้านบาทที่ทำได้ในปีที่แล้ว หลังได้รับผลกระทบจากสถานการณ์โควิด-19 และสงครามราคาน้ำมัน ซึ่ง ปตท. ยังยืนยันที่จะยังคงจ่ายเงินปันผลให้กับผู้ถือหุ้นอย่างแน่นอน

"ในปี 63 ก็ทราบกันอยู่ว่ามีหลายเรื่องที่ส่งผลกระทบต่อราคาน้ำมัน ทั้งเรื่องโควิด-19 และผลกระทบจากซาอุและรัสเซียทะเลาะกันอยู่ ขณะเดียวกันโควิดยังทำให้ธุรกิจ ธุรกรรมสูญไปเยอะ ถามว่าปตท.จะกำไรไหม คงตอบได้ว่ากำไร ปีนี้กำไรแน่นอน แต่จะกำไรเยอะเหมือนเดิม ที่ทำได้ 9.2 หมื่นล้านบาทไหม ไม่ได้หรอก แต่เรื่องจ่ายปันผล จ่ายแน่นอน แต่จะจ่าย 50% หรือ 60% หรืออย่างไร ก็ต้องดูอีกที"นายไกรฤทธิ์ กล่าว

ขณะเดียวกันยังไม่สามารถระบุได้ว่าจะสามารถจ่ายเงินปันผลได้ในอัตราเท่าใด หลังจากในปี 62 จ่ายเงินปันผลให้กับผู้ถือหุ้นในอัตราราว 63% ของกำไรสุทธิ หรือ 2 บาทต่อหุ้น เพราะจากสถานการณ์ที่เกิดขึ้นในขณะนี้ทำให้คณะกรรมการได้มอบให้เป็นนโยบายหลักคือการรักษาสภาพคล่องและอันดับเครดิต เพราะหากเสียอันดับเครดิตจะทำให้ต้นทุนทางการเงินของปตท.สูงขึ้น ดังนั้น การจะจ่ายปันผลต้องพิจารณาให้รอบคอบทุกด้าน ซึ่งรวมถึงด้านการลงทุนที่มีการลดการลงทุนบางโครงการ ส่วนบางโครงการที่จำเป็นก็ยังเดินหน้าต่อไป

อย่างไรก็ตาม จากที่นักลงทุนบางรายอาจจะกังวลการจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลของ ปตท. หลังจากที่ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ขอให้ธนาคารพาณิชย์งดจ่ายปันผลระหว่างกาลจากผลการดำเนินงานปี 63 นั้น ยืนยันว่าธุรกิจของ ปตท.แตกต่างจากธุรกิจธนาคารพาณิชย์ โดยการจ่ายปันผลจะพิจารณาเรื่องการลงทุน การรักษาสภาพคล่องและอันดับเครดิต และส่วนธนาคารพาณิชย์หากมีการจ่ายเงินปันผลออกไปมากก็จะกระทบต่อเงินกองทุนซึ่งมีผลต่อความสามารถในการปล่อยสินเชื่อ อย่างไรก็ตาม ปตท.จะมีการจ่ายปันผลระหว่างกาลหรือไม่ต้องรอดูผลการดำเนินงานช่วง 6 เดือนแรกของปีนี้ก่อน