นายภุชพงค์ โนดไธสง รองปลัดกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) กล่าวว่า ขณะนี้โครงการจัดเก็บข้อมูลโครงสร้างพื้นฐานระดับพื้นที่ เพื่อการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำอย่างยั่งยืน ในลุ่มน้ำทั่วประเทศ จำนวน 25 ลุ่มน้ำ ภายใต้แผนแม่บทการพัฒนาระบบข้อมูลสนับสนุนการตัดสินใจ และยุทธศาสตร์การบริหารจัดการน้ำ พ.ศ. 2555-2564 ของ สำนักงานสถิติแห่งชาติ (สสช.) ที่เริ่มดำเนินโครงการตั้งแต่ปี 2558 ได้ดำเนินการเก็บข้อมูลครบถ้วนแล้ว
โดยสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ สามารถนำไปใช้วิเคราะห์และวางแผนการบริหารจัดการน้ำลงลึกในระดับตำบลได้ รัฐบาลจะทราบความต้องการใช้น้ำและวางแผนงบประมาณและโครงการส่งเสริมการใช้น้ำอย่างคุ้มค่า รู้ว่าพื้นที่ไหนแล้งบ้าง และคาดการณ์แผนบริหารจัดการน้ำในอนาคตได้อย่างถูกต้อง
อย่างไรก็ตาม โครงการนี้ถือเป็นโครงการตัวอย่างในการทำบิ๊ก ดาต้า ด้านทรัพยากรน้ำ ด้วยการบูรณาการข้อมูลน้ำจากทุกภาคส่วน ทั้ง หน่วยงานรัฐ เอกชน และประชาชนอย่างแท้จริง ที่มาจากความร่วมมือที่ให้ข้อมูลร่วมกัน การสำรวจลงพื้นที่จริงเพื่อให้ได้ข้อมูลถูกต้องที่สุด ซึ่งนับจากนี้ข้อมูลดังกล่าวจำเป็นต้องมีการอัปเดทอย่างสม่ำเสมอ เมื่อพบข้อมูลใหม่ๆ ที่ส่งผลกระทบต่อการบริหารจัดการน้ำ เช่น ข้อมูลการสร้างโรงงานอุตสาหกรรมใหม่ การสร้างฝาย หรือ เขื่อน เพิ่มเติม เพื่อให้เป็นฐานข้อมูลในการวิเคราะห์น้ำได้อย่างต่อเนื่องมีประสิทธิภาพและแม่นยำ
ทั้งนี้ โจทย์ที่ต้องทำต่อไปคือ เมื่อรัฐบาลมีข้อมูลด้านน้ำของทั้ง 25 ลุ่มแม่น้ำด้วยการบูรณาการข้อมูลจากทุกภาคส่วนเข้ามาด้วยกัน จะทำอย่างไรให้ข้อมูลมีการอัปเดทอยู่ตลอดเวลา เพื่อให้ข้อมูลไม่นิ่ง และการคาดการณ์ไม่คลาดเคลื่อน และไม่ต้องมีการตั้งโครงการใหม่ หรือ ตั้งงบประมาณใหม่ ซึ่งหน้าที่หลักที่ต้องดันโครงการต่อจะขึ้นอยู่กับสำนักงานทรัพยากรน้ำว่าจะดำเนินการอย่างไรต่อไป
"โครงการนี้ใช้งบประมาณ 600 ล้านบาท แบ่งเป็น 1. จ้างทีปรึกษา 46 ล้านบาท 2. จัดซื้อแท็บเล็ตจำนวน 20,500 เครื่อง ราว 130 ล้านบาท เมื่อจบโครงการได้นำแท็บเล็ตให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องนำไปใช้ประโยชน์ต่อ 3. การฝึกอบรมเจ้าหน้าที่และการจ้างงานเจ้าหน้าที่ คุณมาดี 4 เดือน จำนวน 20,000 คน ประมาณ 400 ล้านบาท
ทั้งนี้ โครงการดังกล่าว มีดัชนีชี้วัดการจัดการน้ำ 8 ข้อ คือ 1.ต้นทุนทรัพยากรน้ำทั้งน้ำผิวดินน้ำบาดาล 2.การจัดการน้ำเพื่อการอุปโภคบริโภค ครัวเรือนสถานที่ราชการ 3.วัดความมั่นคงของน้ำ เพื่อการพัฒนาเพื่อใช้ในการเกษตรอุตสาหกรรมบริการและพลังงาน 4.ความสมดุลของน้ำต้นทุนและการใช้น้ำ 5.การจัดการคุณภาพน้ำและสิ่งแวดล้อม 6.การจัดการภัยพิบัติที่เกิดจากน้ำท่วม น้ำแล้งและน้ำเสีย 7. การจัดการและอนุรักษ์ป่าต้นน้ำ และ 8. การบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ