พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีการปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) ภายหลังนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี และกลุ่ม 4 กุมารลาออกจากรัฐมนตรี ว่า ตนเพิ่งทราบเมื่อวันที่ 15 ก.ค.ที่ผ่านมาเหมือนกัน ก็ได้มีการพูดคุยกันมาเป็นระยะอยู่แล้ว ที่ผ่านมาจริงๆก็ไม่ได้ต้องมาพูดคุยกันว่าจะไอ้นั่นไอ้นี่อะไรกัน เพียงแต่ว่าแต่ละคนถามเรื่องสุขภาพกันมา นานแล้วล่ะ แล้วท่านบอกตนมานานแล้ว ว่าพร้อมที่จะทำตามสถานการณ์ที่เกิดขึ้น ตนไม่ได้มีอะไรกับท่าน ก็ยังเคารพท่านเหมือนเดิม
"สิ่งสำคัญการทำงานของผม ผมเป็นทหารมา ก็มีความผูกพันแม้แต่กับคนที่ทำงานมาด้วย เขาเรียกว่าความผูกพัน ดูสิทำงานมาตั้ง 5 ปี และสิ่งสำคัญวันนี้ถือว่าท่านทำสำเร็จมาในขั้นต้นกับผมแล้ว ไม่ว่าจะเป็นการวางพื้นฐานดิจิทัลและอีอีซี เรื่องเหล่านี้ทุกท่านร่วมมือมากับผม โดยเฉพาะอย่างยิ่งเราจะต้องพัฒนาประเทศให้ได้ เพราะถ้าเราไม่ทำพื้นฐานพวกนี้มันไปไม่ได้ แต่เมื่อสถานการณ์การเมืองมันเปลี่ยนแปลงไป เรามองในมิติการเมือง เรื่องของการเมือง ท่านก็ออกไป จะบอกว่าก็เสียดาย แต่มันก็จำเป็นด้วยสถานการณ์ทางการเมือง ผมเองก็ไม่คุ้นเคยแบบนี้ แต่จำเป็นต้องตัดสินใจ เราก็จากกันด้วยดี ไม่มีการให้ร้ายอะไรซึ่งกันและกัน ผมไม่เคยทำร้ายใคร" นายกฯกล่าว
ผู้สื่อข่าวถามว่า ส่งผลให้นายกฯต้องปรับครม.เร็วขึ้นใช่หรือไม่ ถือว่ากดดันหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ก็ต้องปรับเพื่อไม่เกิดช่องว่างมากนัก ซึ่งต้องทำให้เร็วเท่าที่ทำได้ และไม่กดดันหรอก เป็นเรื่องธรรมดา ตอนก่อนหน้านี้ก็กดดัน เพราะตนไม่ค่อยคุ้นเคยกับเรื่องแบบนี้ แต่จำเป็นต้องทำ เพราะเป็นนายกฯได้ถือว่าเป็นนักการเมืองแล้ว แต่ต้องเป็นไปตามขั้นตอนที่กำหนด คือจะต้องไปถามคนที่จะมาเป็นเขาจะมาเป็นหรือเปล่า ต้องไปติดต่อคนเพราะเขาก็ยังไม่ตอบรับกันเท่าไหร่หรอก ยังไม่ตอบกันทันทีหรอก
เมื่อถามว่า จะใช้ระยะเวลาเท่าไหร่ในการปรับครม. พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว่า ไม่เกินเดือนส.ค.
ถามว่าในสัดส่วน ครม.จะมีคนนอกด้วยใช่หรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ก็ต้องมีซิ สัดส่วนของตนก็ต้องมี
ผู้สื่อข่าวถามอีกว่า ไม่จำเป็นต้องรอ พ.ร.บ. งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2564 ผ่านก่อนใช่หรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ทีมทำงานพ.ร.บ.ประมาณ มีอยู่แล้ว โดยมีคณะกรรมาธิการอยู่ และรัฐมนตรีช่วยก็ยังอยู่แล้ว
เมื่อถามว่า จะมีการเปลี่ยนตัวประธานกรรมาธิการวิสามัญเพื่อพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณฯ หรือไม่หลังนายอุตตม สาวนายน ลาออกจาก รมว.คลัง นายกฯ กล่าวว่า ถ้าลาออกก็ไม่รู้เหมือนกันว่ากฎหมายว่ายังไง รัฐบาลก็เตรียมการ
"การปรับครม.ก็อย่างว่าจะให้ถูกใจทุกคนคงไม่ได้ ประเด็นสำคัญคือคนที่เราอยากให้เป็น คนที่ประชาชนเขาอยากได้เขามาได้หรือเปล่า บางคนก็มีภารกิจที่จะต้องทำแม้กระทั่งศาสตราจารย์หลายๆคนที่มา เขาก็มีงานของเขา ทางจะไปทำงานอื่นสอนหนังสือบ้าง”
เมื่อถามว่าในส่วนของเศรษฐกิจจะมีการนำคนนอกเข้ามาช่วยงานหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ตอนนี้รออยู่ แต่ท่านยังไม่ตอบรับ ส่วนที่มีชื่อออกมาก็ไม่รู้ว่าออกมาได้อย่างไร
เมื่อถามถึงกรณีที่มีชื่อของนายไพรินทร์ ชูโชติถาวรอดีต รมช.คมนาคมจะเข้ามาเป็นรัฐมนตรีในการปรับครม.ครั้งหน้า พล.อ.ประยุทธ์ ย้อนถามว่า เขามีปัญหาอะไรหรือเปล่า เมื่อถามย้ำว่า เห็นพรรคพลังประชารัฐมองว่าน่าจะเอาคนในมากกว่าคนนอก พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า ก็ไปถามหัวหน้าพรรค
เมื่อถามว่า กระทรวงพลังงานที่มีปัญหาแย่งกันจะทำให้มีปัญหามากหรือไม่ นายกฯกล่าวว่า “ผมพิจารณาของผมเอง”
ทั้งนี้ นายกฯ กล่าวช่วงท้ายว่า "การปรับครม.ขอให้มั่นใจตัวผม แต่จะทำให้ทุกคนถูกใจทั้งหมดคงเป็นไปไม่ได้ แต่จะทำให้ดีที่สุด"
ผู้สื่อข่าวรายงานว่านายกรัฐมนตรีได้ใช้รถยนต์โตโยต้าอัลพาร์ด ทะเบียน กฉ 1111 ศรีสะเกษ