นายสุรวุฒิ เชิดชัย นายกเทศมนตรีนครนครราชสีมา เปิดเผยว่า ปัญหาขยะล้นเมือง เป็นปัญหาเร่งด่วนที่เขตชุมชนเมืองขนาดใหญ่ อย่างเช่นเทศบาลนครนครราชสีมา ให้ความสำคัญเป็นอันดับต้นๆ เนื่องจากปัจจุบันพบว่า ชุนเมืองมีการขยายตัว และจำนวนประชากรเพิ่มสูงขึ้น ซึ่งในจำนวนนี้รวมไปถึงประชากรแฝงด้วย ทำให้ปริมาณการทิ้งขยะเพิ่มขึ้นเป็นตามตัว เทศบาลนครฯจึงต้องบริหารจัดการจำกัดขยะให้เบ็ดเสร็จและเกิดประสิทธิภาพ แต่ต้องยอมรับว่า ประชาชนหลายพื้นที่ในเขตดูแลที่ละเลยไม่ใส่ใจเรื่องการจำกัดขยะตั้งแต่ต้นทาง อีกทั้งมีการทิ้งขยะเกลื่อนกลาดไปทั่วเมือง เห็นได้จากปริมาณกองขยะที่พากันมาเททิ้งไว้ตามที่สาธารณะหรือที่รกร้าง ซึ่งคนมักม่ายและเห็นแก่ตัวยำขยะในครัวเรือนมาโยนทิ้งไว้โดยไม่ได้ใส่ใจกับปัญหามลพิษหรือปัญหาอื่นๆ ที่อาจเกิดตามมา
เทศบาลนครนครราชสีมา จึงต้องประกาศออกกฎเหล็ก ห้ามทิ้งขยะในแต่ละจุดที่อยู่ในเขตดูแล พร้อมกับติดตั้งกล้องวงจรปิด เพื่อบันทึกภาพการกระทำผิดของบุคคลที่ฝ่าฝืนมาทิ้งขยะที่สาธารณะ อย่างเช่นที่ บริเวณซอยท้าวสุระ 15 บ่อบำบัดน้ำเสียหัวทะเล ซึ่งมักจะมีผู้ลักลอบนำขยะไปทิ้งในที่ห้ามทิ้งจำนวนมาก ซึ่งหากมีการฝ่าฝืน จะมีโทษปรับตามกฎหมายไม่เกิน 2,000 บาท ตามพระราชบัญญัติรักษาความะอาดและความเป็นระเบียบเรียบร้อยของบ้านเมือง พ.ศ.2535 ซึ่งงานเทศกิจ เทศบาลนครฯ จะออกตรวจติดตามเป็นระยะๆ พร้อมนำภาพจากล้องวงจรปิดประกอบเป็นหลักฐานแจ้งความดำเนินคดีตามกฎหมายกับผู้กระทำผิด ต่อไป ซึ่งหากใครพบเห็นการกระทำความผิด สามารถแจ้งไปได้ที่สายด่วน 1132 เทศบาลนครนครราชสีมา