ที่โรงแรมเมอร์เคียว มักกะสัน นายกรณ์ จาติกวณิช หัวหน้าพรรคกล้า และนายอรรถวิชช์ สุวรรณภักดี เลขาธิการพรรคกล้า เปิดโครงการ “คน Gen กล้า” โดยมีผู้เข้าร่วมอบรมเป็นเยาวชนอายุ 18-25 ปี จำนวน 50 คน ทั้งนี้  โดยนายกรณ์ ให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับโครงการดังกล่าว ว่า พรรคกล้าต้องการจะติดอาวุธให้กับคนรุ่นใหม่  3 ด้าน เพื่อนำไปสร้างสรรค์โลกให้น่าอยู่ โดย 1.เป็นการติดอาวุธทางความคิด เพราะเป็นยุคที่ทุกวงการถูกดิสรัปชั่นเร็วและแรงที่สุด ถ้าความรู้ความสามารถไม่สามารถตามได้ทัน พวกเขาจะถูกทิ้งไว้ข้างหลัง 2.ติดอาวุธในการลงมือทำ คนรุ่นนี้ตื่นตัวเรื่องสิ่งแวดล้อมมากเป็นพิเศษ อาจเป็นเพราะคนรุ่นพวกตนได้ทำลายลงไปมาก ฉะนั้นจึงต้องการจะช่วยลงมือสร้างสิ่งแวดล้อมที่ดี ด้วยการใช้เทคโนโลยีมาขับเคลื่อน เพื่อให้ทุกวัยอยู่ร่วมกันอย่างมีความสุข และ3.ติดอาวุธทางจิตใจด้วย

นายกรณ์ กล่าวอีกว่า ทั่วโลกเข้าสู่โหมดประเทศผู้สูงอายุ ไม่เว้นแม้แต่ประเทศไทย คนรุ่นใหม่จะเป็นวัยทำงานที่หารายได้เข้าประเทศ ในขณะที่ผู้สูงอายุจะมากขึ้นเรื่อยๆ โครงการนี้จึงไม่ใช่แค่โครงการที่เน้นการขับเคลื่อนประเทศไปข้างหน้าด้วยความเร็ว แต่ต้องขับเคลื่อนไปให้ไกลด้วยการจับมือกันไป ซึ่งจะไปได้อย่างยั่งยืนกว่า ซึ่งแน่นอนการติดอาวุธทั้ง 3 ด้านนี้ ต้องเป็นอาวุธที่สร้างสรรค์ ซึ่งเป็น DNA ของพรรคกล้า เราเชื่อว่าพลังที่บวก จะเป็นพลังที่สร้างโลกให้น่าอยู่ได้มากกว่า

ผู้สื่อข่าวถามถึงความคิดทางการเมืองและแนวคิดด้านสถาบันของคนรุ่นใหม่ นายกรณ์ กล่าวว่า เป็นเรื่องที่ต้องแลกเปลี่ยนกัน ถ้านึกย้อนกลับไปหลายปีมีประโยคหนึ่งที่มักพูดว่า คนรุ่นใหม่ เด็กมหาวิทยาลัยสมัยนี้หายไปไหน ทำไมไม่ให้ความสนใจเรื่องการเมือง วันนี้เราเห็นแล้วว่าไม่ใช่ นิสิตนักศึกษาตื่นตัวซึ่งเป็นเรื่องที่ดีและพวกเรารอคอยมานาน ดังนั้น พวกเราต้องเปิดหูเปิดตา รอฟังว่านิสิตนักศึกษาพูดอะไร ประเด็นสำคัญคือความต้องการการเปลี่ยนแปลงสังคมให้ดีขึ้นของคนรุ่นใหม่ นั่นคือสิ่งที่พวกเราต้องฟังและนำไปประมวลร่วมกับพวกเขา เพื่อทำให้สังคมในอนาคตเป็นไปตามความต้องการทั้งของคนรุ่นใหม่และคนรุ่นเก่า

ถามต่อว่าการเคลื่อนไหวของนิสิตนักศึกษาจะกลายเป็นน้ำผึ้งหยดเดียวทำให้สังคมวุ่นวายหรือไม่ นายกรณ์ กล่าวว่า สิ่งที่อยากฝากกับทุกฝ่ายคือต้องมีสติ ให้เกียรติเคารพสิทธิ์ของทุกคน และที่สำคัญต้องเคารพกฏหมาย ทุกครั้งที่มีม็อบลงท้องถนน ทุกคนล้วนมีอารมณ์ แต่ต้องพยายามควบคุมสติอารมณ์ เพื่อป้องกันไม่ให้ใครอ้างเพื่อใช้ความรุนแรงได้ ถ้าถามว่าเรามีความกังวลเรื่องใด ก็ต้องตอบว่ากังวลเรื่องนี้มากที่สุด เพราะหลายครั้งเราเห็นว่ามีคนอยากเห็นการใช้ความรุนแรงด้วยซ้ำไป ฉะนั้น ขอให้ภาครัฐและเยาวชนที่ออกมาชุมนุมควบคุมอารมณ์และมีสติ ขอให้การเคลื่อนไหวออกมาอย่างสร้างสรรค์ 

“ทุกคนอยากเห็นความเปลี่ยนแปลงที่เป็นไปอย่างสร้างสรรค์ ความต้องการของแต่ละวัยอาจมีแตกต่างกันบ้างแต่เป็นเรื่องปกติ ประเทศนี้เป็นของทุกคน ทุกเพศ ทุกวัย ขอให้ฟังกัน ผมเชื่อว่าถ้ามีความตั้งใจจริง มีความจริงใจในการพัฒนาประเทศ สร้างความเปลี่ยนแปลง ทุกอย่างจะจบด้วยดีได้” หัวหน้าพรรคกล้า กล่าว