กรุงเทพมหานคร ร่วมกับสำนักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ (วช.) วิทยาลัยพัฒนามหานคร และมหาวิทยาลัยนวมินทราธิราช จัดงาน ประชุมระดมสมอง เรื่อง "ท้าทายไทย : ปัญหาจราจรในกรุงเทพมหานคร" โดยมี ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าราช กทม. เป็นประธานเปิดงานพร้อมกับปาฐกถาพิเศษ เรื่อง “การจัดการจราจรในกรุงเทพมหานคร” เพื่อหาแนวคิดโจทย์และเป้าหมายที่เหมาะสม และเป็นการสร้างงานวิจัยที่นำไปสู่การแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นได้อย่างยั่งยืนภายใต้โครงการท้าทายไทย (Grand Challenges Thailand) โดยมี คณะผู้บริหารกรุงเทพมหานคร พล.ต.ต.วิชัย สังข์ประไพ ที่ปรึกษาของผู้ว่าราชการ กทม. นายทวีศักดิ์ เลิศประพันธ์ ผู้อำนวยการสำนักการจราจรและขนส่ง ศาสตราจารย์กิตติคุณ นายแพทย์สุทธิพร จิตต์มิตรภาพ เลขาธิการ วช. ดร.สุวัฒน์ วาณีสุบุตร วิทยาลัยพัฒนามหานครมหาวิทยาลัยนวมินทราธิราช รองศาสตราจารย์ ดร.จิตติชัย รุจนกนกนาฎ รองผู้อำนวยการสถาบันการขนส่ง จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.สิทธา เจนศิริศักดิ์ มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี ผู้เข้าประชุมและผู้เกี่ยวข้อง ร่วมงาน ณ ห้องประชุม ชั้น 10 อาคารศรีจุลทรัพย์ เขตปทุมวัน

     ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวว่า กรุงเทพมหานครและปริมณฑลประสบกับปัญหาด้านการจราจรติดขัดและมีแนวโน้มจะรุนแรงมากยิ่งขึ้น ทั้งนี้เป็นผลอันเนื่องมาจากความต้องการในการเดินทางของประชาชนที่เพิ่มมากขึ้น ซึ่งมาจากการพัฒนาของเมืองที่มีการใช้ที่ดินที่ขยายตัวเพิ่มมากขึ้น หากไม่มีการเตรียมการแก้ไขหรือมีแผนงานโครงการที่รองรับกับปัญหาการจราจรดังกล่าว จะส่งผลกระทบต่อการเดินทางและความเป็นอยู่ของประชาชน รวมทั้งจะส่งผลทำให้เกิดความเสียหายต่อภาพรวมของประเทศในด้านเศรษฐกิจ สังคมและสิ่งแวดล้อมในอนาคต  ทำให้ภาครัฐมีนโยบายที่จะเร่งหาแนวทางในการแก้ไขปัญหาดังกล่าว ด้วยการผลักดันแผนงานโครงการทั้งในระยะเร่งด่วนและระยะยาวของหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้องในการแก้ปัญหาการจราจรติดขัดในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑล

     ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวต่อไปว่า กรุงเทพมหานครมุ่งผลักดันการแก้ไขปัญหาจราจรให้เห็นผลเป็นรูปธรรมอย่างต่อเนื่อง แม้กรุงเทพมหานครจะไม่ใช่หน่วยงานเดียวที่รับผิดชอบในการแก้ไขปัญหาดังกล่าว แต่ก็ได้พยายามที่จะดำเนินนโยบายสนับสนุนและพัฒนาระบบรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนให้มีประสิทธิภาพและครอบคลุมทุกพื้นที่ โดยเน้นหลักการเคลื่อนคนมากกว่าเคลื่อนรถ เพื่อผลักดันให้ผู้ใช้รถยนต์ส่วนบุคคลหันมาใช้บริการของระบบขนส่งมวลชนเพิ่มมากขึ้น รวมถึงการรณรงค์ให้ใช้ยานพาหนะร่วมกัน และการสร้างความเชื่อมโยงระหว่างศูนย์กลางชุมชนต่างๆ ด้วยโครงข่ายคมนาคมขนส่งที่มีความสะดวกรวดเร็ว ประหยัดพลังงานและปลอดภัยเพื่อให้กรุงเทพมหานครเป็นเมืองน่าอยู่และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม

     นอกจากนี้ยังได้พัฒนาระบบขนส่งมวลชนระบบรอง ด้วยการเพิ่มทางเลือกการเดินทางโดยทางเรือโดยสาร ปรับปรุงถนน จุดตัดทางแยก ตรอก ซอย ทางลัด เพิ่มประสิทธิภาพโครงข่ายถนนบริเวณคอขวด และนำระบบสารสนเทศมาใช้ในการบริหารจัดการจราจรเพื่อคลี่คลายปัญหาจราจรในชั่วโมงเร่งด่วน รวมถึงเปิดให้บริการแอพพลิเคชั่นการจราจรบนโทรศัพท์มือถือ "BMA Traffic" พร้อมทั้งรณรงค์ให้ประชาชนหันมาใช้จักรยานในการเดินทางเพื่อสร้างระบบการขนส่งอย่างยั่งยืน

     “การจัดการประชุมครั้งนี้จะเป็นเวทีให้ผู้เข้าร่วมประชุมได้แลกเปลี่ยนความคิดเห็น รับฟังข้อเสนอแนะ เพื่อหาแนวคิดโจทย์วิจัยและเป้าหมายที่เหมาะสม รวมทั้งเป็นการสร้างงานวิจัยที่นำไปสู่การแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นได้อย่างแท้จริงภายใต้โครงการท้าทายไทย (Grand Challenges Thailand) ซึ่งทั้งหมดที่เกิดขึ้นในวันนี้จะเป็นการตอบโจทย์ที่สำคัญ และเป็นข้อเสนอแนะที่ดีต่อรัฐบาล เพื่อจัดทำนโยบายที่ตอบสนองความต้องการของพี่น้องได้อย่างแท้จริง” ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวในตอนท้าย