พันเอก เกียรติศักดิ์ ณีวงษ์ โฆษก กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า (กอ.รมน.ภาค 4 สน.) เปิดเผยว่า ตามที่ เจ้าหน้าที่ได้สนธิกำลังเข้าบังคับใช้กฎหมายกับกลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรงในพื้นที่ หมู่ที่ 2 ตำบลกอลำ อำเภอยะรัง จังหวัดปัตตานี เมื่อวันที่ 14 สิงหาคม 2563 ในห้วงตั้งแต่เวลา 10.00 น. เป็นต้นมา โดยเจ้าหน้าที่ได้เชิญผู้นำท้องถิ่นและผู้นำศาสนามาช่วยเกลี่ยกล่อม แต่ก็ไม่เป็นผล คนร้ายยังคงยิงสวนกลับมาตลอดเวลา โดยเจ้าหน้าที่ได้วางกำลังระวังป้องกันรอบนอก พร้อมใช้เฮลิคอปเตอร์บินลาดตระเวน เพื่อกดดันกลุ่มคนร้าย ควบคู่การเจรจาเพื่อให้กลุ่มคนร้ายออกมามอบตัว แต่กลุ่มคนร้ายได้เปิดฉากการยิงใส่ก่อน จนเป็นเหตุให้เกิดการปะทะกันขึ้น ทำให้เจ้าหน้าที่ได้รับบาดเจ็บ 3 นาย ประกอบด้วย 1.ร้อยตรี สุทธิพร สุภาการ อายุ 33 ปี สังกัดชุดควบคุม 543 กระสุนปืนถูกบริเวณต้นขาขวาได้รับบาดเจ็บ นำส่งโรงพยาบาลศูนย์ยะลา 2.จ่าสิบตรี อนุวัฒน์ สวนโศกเชือก อายุ 31 ปี สังกัดชุดควบคุม 543 กระสุนปืนถูกบริเวณข้อเท้าซ้ายได้รับบาดเจ็บ นำส่งโรงพยาบาลยะรัง จังหวัดปัตตานีและ 3.สิบโท แสนชัย ชาติชำนาญ อายุ 27 ปี สังกัดชุดควบคุม 543 กระสุนปืนถูกบริเวณต้นขาซ้าย และข้อเท้าขวาได้รับบาดเจ็บ นำส่งโรงพยาบาลยะรัง ส่วนคนร้ายเสียชีวิต 2 ราย ตรวจยึดอาวุธปืนพก ขนาด 9 มม. จำนวน 1 กระบอก และ ปลย.m 16 ของคนร้ายจำนวน 1 กระบอก พร้อมเครื่องกระสุนจำนวนหนึ่ง คนร้ายที่เสียชีวิตประกอบด้วย

 1.นายอันวา กอแล โซ๊ะ วาจิ อายุ 31 ปี บ้านเลขที่ 145/3 หมู่ที่ 4 ตำบลเมาะมาวี อำเภอยะรัง จังหวัดปัตตานี พฤติกรรม : เป็นผู้ก่อเหตุรุนแรงสมาชิกระดับปฏิบัติการ มีหมายจับ ป.วิอาญา 1 หมาย และ 2.นายมะซูกี สารูเม๊าะ/อัชฮา อายุ 38 ปี บ้านเลขที่ 88 หมู่ที่ 1 ตำบลเกะรอ อำเภอรามัน จังหวัดยะลา พฤติกรรม : เป็นผู้ก่อเหตุรุนแรงระดับสั่งการ มีหมายจับ ป.วิอาญา 2 หมาย รวมทั้งมีส่วนเกี่ยวข้องคดีสำคัญหลายเหตุ เช่น เหตุระเบิดนางเงือกที่หาดสมิหลา จังหวัดสงขลา ซึ่งเจ้าหน้าที่เคยควบคุมตัวภรรยา ซึ่งเป็นครูตาดีกาเพราะเป็นผู้สั่งซื้อชิมการ์ด 20 ซิม จากกรุงเทพฯ ให้สามีนำไปใช้ก่อเหตุ โดยการควบคุมตัวในครั้งนั้นมีกลุ่มภาคประชาสังคมและแนวร่วมออกมาประท้วงแสดงความไม่พอใจกล่าวหาว่าเจ้าหน้าที่ควบคุมตัวสตรี ซึ่งเป็นครูตาดีกาจนเกิดกระแสดราม่าอย่างกว้างขวาง

ทั้งนี้ พลโท พรศักดิ์ พูลสวัสดิ์ แม่ทัพภาคที่ 4 ผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ได้เน้นย้ำให้เจ้าหน้าที่ปฏิบัติด้วยความระมัดระวัง ตามขั้นตอน อย่างไรก็ตาม จนถึงขณะนี้เจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายได้ร่วมกันวางแผน เพื่อกระชับวงล้อมให้เข้าถึงกลุ่มคนร้ายมากที่สุด เพราะพื้นที่ที่เกิดเหตุ มีสภาพเป็นทุ่งนาและมีป่าละเมาะ ทำให้การปฏิบัติเป็นไปด้วยความยากลำบาก จึงต้องทำทุกอย่างด้วยความละเอียดรอบคอบ ปัจจุบันยังไม่จบภารกิจ คาดว่ายังคงเหลือคนร้ายหลบซ่อนอยู่ในที่เกิดเหตุอีกจำนวนหนึ่ง

ในการนี้ กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า ขอแสดงความเสียใจกับญาติและครอบครัวของคนผู้ก่อเหตุรุนแรงที่เสียชีวิต ทั้ง 2 ราย แม้เจ้าหน้าที่จะปฏิบัติด้วยความระมัดระวัง โดยใช้มาตรการจากเบาไปหาหนักแล้วก็ตามจนนำไปสู่การสูญเสียดังกล่าว สำหรับศพคนร้ายที่เสียชีวิตได้ส่งไปตรวจชันสูตรตามกระบวนการและขั้นตอนต่อไป