นายโชคชัย วิเชียรชัยยะ รองอธิบดีกรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการเปิดเผยว่าจากนโยบายของนายจุติ ไกรฤกษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์หรือพม.ได้ให้การช่วยเหลือประชาชนกลุ่มเปราะบางทางสังคมซึ่งได้รับผลกระทบจำนวนมากจากการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19ทั้งการถูกเลิกจ้าง รายได้ที่ลดลงแต่รายจ่ายมากขึ้น โดยเฉพาะสำนักงานธนานุเคราะห์ให้บูรณาการการช่วยเหลือผู้มาใช้บริการโรงรับจำนำของรัฐที่ได้รับผลกระทบจากวิกฤติโควิด-19 ดังพระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวที่พระราชทานไว้ว่า”ให้ช่วยกันดูแลประชาชนอย่าให้ลำบาก.....ทำให้คนไทยดีขึ้นในทุกมิติ
นายประสงค์ พันธ์ลิมา ผู้อำนวยการสำนักงานธนานุเคราะห์หรือสธค.กล่าวว่าทางสธค.ได้ขับเคลื่อนกิจกรรมหลายอย่าง ล่าสุดมีกิจกรรมแสดงความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อมให้แก่ผู้มีส่วนได้ส่วนเสียของสธค. โดยมอบทุนการศึกษาแก่บุตรของผู้มาใช้บริการที่มีรายได้น้อย มีผลการเรียนดี และความประพฤติดี แต่ขาดทุนทรัพย์ จำนวนทั้งสิ้น104ทุน จำนวนเงิน312,000บาท จัดมาต่อเนื่องเป็นปีที่4แล้วทั้งนี้เพื่อแบ่งเบาภาระของผู้ปกครองและสนับสนุนให้เยาวชนได้มีโอกาสศึกษาต่อในระดับอุดมศึกษา ทุนนี้จะเป็นขวัญและกำลังใจในการตั้งใจเรียนเพื่อเป็นรากฐานทางการศึกษาสู่การมีอาชีพที่สามารถเลี้ยงดูตนเองและครอบครัว ทั้งยังสามารถนำความรู้ไปช่วยพัฒนาสังคมและประเทศได้ในอนาคต
นอกจากนี้มี โครงการฝึกอบรมการบริหารเงินและการดูทองคำ จำนวน40คน เป็นการนำองค์ความรู้ความเชี่ยวชาญในเรื่องการวิเคราะห์ทองคำ โดยเฉพาะเรื่องของราคาทองคำและตรวจสอบคุณลักษณะ ทั้งนี้เพื่อเผยแพร่สร้างประโยชน์สู่สังคม ซึ่งทองคำมีบทบาทสำคัญและเป็นหนึ่งในตัวชี้วัดด้านการเปลี่ยนแปลงของเศรษฐกิจและการเงิน ยิ่งกว่านั้นปัจจุบันทองคำเป็นสินทรัพย์ที่มีค่าที่ซื้อง่าย ขายคล่องได้รับการยอมรับในระดับนานาประเทศ จะช่วยสร้างงานสร้างอาชีพในด้านนี้มากขึ้น
และล่าสุดสธค.ยังได้ร่วมกับธนาคารกรุงไทยดำเนินการโครงการส่งดอกเบี้ยรับจำนำออนไลน์โดยให้ผู้มาใช้บริการรับจำนำสแกนไปที่ QR CODE ในตั๋วจำนำก็สามารถชำระเงินค่าดอกเบี้ยทุกวัน ตลอด24ชั่วโมง โดยไม่มีค่าธรรมเนียม ผ่านแอพพลิเคชั่นกรุงไทยNextได้สะดวกรวดเร็ว นับเป็นนวัตกรรมที่ทันสมัยเพื่อให้บริการกับผู้ใช้โรงจำนำทันต่อความต้องการและตอบสนองต่อความต้องการของประชาชนโดยเฉพาะเรื่องปัญหาของการขาดส่งของที่มาจำนำอย่างเช่นทองคำ
สถานธนานุเคราะห์เป็นหน่วยงานรัฐวิสาหกิจอยู่ภายใต้การดูแลของกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์เป็นโรงรับจำนำของรัฐที่จัดตั้งขึ้นมาช่วยเหลือประชาชนผู้มีรายได้น้อยที่ประสพปัญหาเฉพาะหน้าขาดแคลนเงินใช้ในการดำรงชีพและการประกอบอาชีพ โดยการนำทรัพย์สินมาจำนำเสียดอกเบี้ยในอัตราต่ำ และเพื่อตรึงระดับอัตราดอกเบี้ยรับจำนำ มิให้โรงรับจำนำเอกชนเรียกเก็บอัตราดอกเบี้ยหรือค่าใช้จ่ายอื่นๆจากประชาชนผู้มาใช้บริการเกินอัตราที่กฏหมายกำหนด ปัจจุบันมีสาขาทั่วประเทศที่เปิดให้บริการทั้งสิ้น39สาขา