จากกรณีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงแก่นายกิตติก้อง คณาจันทร์ อดีต ผอ.ศูนย์ปราบปรามการฟอกเงินความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด หัวหน้าคณะพนักงานสอบสวนดีเอสไอ กรณีเข้าไปมีส่วนพัวพันในการขายที่ดินของนายศุภชัย ศรีศุภอักษร อดีตประธานสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่น จำนวน 1,822 ไร่ ให้กับบริษัท พิษณุโลก เอทานอล จำกัด วงเงินกว่า 477 ล้านบาท โดยอ้างว่าเป็นการขายเพื่อชดใช้คืนให้กับสหกรณ์ฯ แต่พบว่า มีการคืนเงินให้กับสหกรณ์แค่ 100 ล้านบาท ส่วนนายศุภชัยได้เงินคืนในส่วนนี้กว่า 249 ล้านบาท โดยดีเอสไอสอบสวนในประเด็นที่ว่า เจ้าหน้าที่ของดีเอสไอใช้อำนาจใดในการนำที่ดินดังกล่าวซึ่งถูกอายัดไว้ไปขายทอดตลาดนั้น
ล่าสุดคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงได้สรุปรายงานผลการสอบสวนข้อเท็จจริงเสร็จสิ้นแล้ว พบว่านอกเหนือจากนายกิตติก้อง ยังพบว่านายธาริต เพ็งดิษฐ์ อดีตอธิบดีดีเอสไอ เข้าไปมีส่วนพัวพันในกรณีนี้ด้วย เนื่องจากเป็นผู้อนุมัติให้ดำเนินการขายที่ดินดังกล่าว ดังนั้นเมื่อปรากฏชื่อของนายธาริต ที่ปัจจุบันปฏิบัติราชการในสำนักนายกรัฐมนตรี ตามคำสั่งหัวหน้า คสช. ดีเอสไอไม่มีอำนาจในการสอบสวนทางวินัยแก่นายธาริต เพราะเป็นอำนาจของกระทรวงยุติธรรม หรือผู้บังคับบัญชาของนายธาริต ดังนั้นจึงได้ส่งรายงานการตรวจสอบดังกล่าวให้กับกระทรวงยุติธรรม ส่งเรื่องเสนอต่อสำนักนายกรัฐมนตรี ดำเนินการตั้งคณะกรรมการสอบสวนทางวินัยแก่นายธาริตแล้ว