ศาลฎีกาฯพิพากษา รองนายก อบต.ป่าไร่ อ.ดอนตาล จ.มุกดาหาร จงใจยื่นบัญชีฯเท็จ ไม่แสดงหนี้ลิสซิ่ง บ.โตโยต้า มุกดาหาร ยูสคาร์ ของตัวเอง รายการสิทธิครอบครองที่ดิน ส.ป.ก.4-01 ของเมีย ห้ามดำรงตำแหน่งการเมือง 5 ปี จําคุก 1 เดือน ปรับ 4,000 บาท รอลงโทษจําคุก 1 ปี
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า เมื่อวันที่ 11 ก.ย. 2563 ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง มีคำพิพากษา คดีการแสดงบัญชีรายการทรัพย์สินและหนี้สินราย นายสมจันทร์ โสภะศรี รองนายกองค์การบริหารส่วนตําบล (อบต.) ป่าไร่ อําเภอดอนตาล จังหวัดมุกดาหาร จงใจยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินและเอกสารประกอบต่อผู้ร้องด้วยข้อความอันเป็นเท็จ หรือปกปิดข้อเท็จจริงที่ควรแจ้งให้ทราบ และมีพฤติการณ์อันควรเชื่อได้ว่ามีเจตนาไม่แสดงที่มา แห่งทรัพย์สินหรือหนี้สินนั้น กรณีพ้นจากตําแหน่ง
พิพากษา ห้ามมิให้ผู้ถูกกล่าวหาดํารงตําแหน่งทางการเมืองหรือดํารงตําแหน่งใดในพรรคการเมืองเป็นเวลาห้าปีนับแต่วันที่ 2 เมษายน 2558 จําคุก 2 เดือน และปรับ 8,000 บาท ลดโทษให้กึ่งหนึ่ง คงจําคุก 1 เดือน และปรับ 4,000 บาท ไม่ปรากฏว่าผู้ถูกกล่าวหาเคยได้รับโทษจําคุกมาก่อน โทษจําคุกจึงให้รอการ ลงโทษไว้มีกําหนด 1 ปี รายละเอียดดังนี้
ผู้ร้องยื่นคําร้องขอให้วินิจฉัยว่า ผู้ถูกกล่าวหาเป็นผู้ดํารงตําแหน่งทางการเมือง จงใจยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินและเอกสารประกอบต่อผู้ร้องด้วยข้อความอันเป็นเท็จ หรือปกปิดข้อเท็จจริงที่ควรแจ้งให้ทราบ และมีพฤติการณ์อันควรเชื่อได้ว่ามีเจตนาไม่แสดงที่มา แห่งทรัพย์สินหรือหนี้สินนั้น กรณีพ้นจากตําแหน่งรองนายกองค์การบริหารส่วนตําบลป่าไร่ อําเภอดอนตาล จังหวัดมุกดาหาร ขอให้เพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้งของผู้ถูกกล่าวหา กับลงโทษ ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2561 มาตรา 81, 114, 167, 188
ผู้ถูกกล่าวหาให้การรับสารภาพ
พิเคราะห์คําร้อง ประกอบเอกสารท้ายคําร้อง และคําให้การของผู้ถูกกล่าวหาแล้ว ข้อเท็จจริงรับฟังเป็นยุติได้ว่า ผู้ถูกกล่าวหาได้รับแต่งตั้งให้ดํารงตําแหน่งรองนายกองค์การบริหารส่วนตําบลป่าไร่ อําเภอดอนตาล จังหวัดมุกดาหาร เมื่อวันที่ 27 พฤษภาคม 2554 และพ้นจาก ตําแหน่งเมื่อวันที่ 2 เมษายน 2558 ผู้ถูกกล่าวหายื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินและเอกสารประกอบต่อผู้ร้องกรณีพ้นจากตําแหน่งรองนายกองค์การบริหารส่วนตําบลป่าไร่โดยแสดงรายการหนี้สินของผู้ถูกกล่าวหาไม่ถูกต้อง ได้แก่ หนี้สินที่มีหลักฐานเป็นหนังสือกับบริษัทโตโยต้า มุกดาหาร ยูสคาร์ จํากัด และไม่แสดงรายการทรัพย์สินของนางสมบูรณ์ โสภะศรี คู่สมรส ได้แก่ รายการสิทธิครอบครองที่ดิน ส.ป.ก.4-01
ปัญหาต้องวินิจฉัยมีว่า ผู้ถูกกล่าวหาจงใจยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินและเอกสารประกอบต่อผู้ร้องด้วยข้อความอันเป็นเท็จหรือปกปิดข้อเท็จจริงที่ควรแจ้งให้ทราบกรณีพ้นจากตําแหน่งรองนายกองค์การบริหารส่วนตําบลป่าไร่ หรือไม่ เห็นว่า พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 มีผลใช้บังคับเมื่อวันที่ 22 กรกฎาคม 2561 โดยยกเลิกพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542 แต่พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 มาตรา 167 ซึ่งเป็นกฎหมายที่ใช้ภายหลังการกระทําความผิดยังคงบัญญัติให้การกระทําตามคําร้องเป็นความผิดอยู่และมีระวางโทษเท่าเดิม จึงต้องใช้กฎหมายที่ใช้ในขณะกระทําผิดบังคับแก่คดีนี้ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 2 วรรคหนึ่ง ส่วนมาตรการจํากัดสิทธิทางการเมืองตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 มาตรา 81 ไม่เป็นคุณ จึงต้องใช้พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกัน และปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542 มาตรา 34 บังคับแก่คดี เมื่อข้อเท็จจริงรับฟังได้ว่า ผู้ถูกกล่าวหาดํารงตําแหน่งรองนายกองค์การบริหารส่วนตําบลป่าไร่ จึงเป็นผู้ดํารงตําแหน่งทางการเมืองและเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542 มาตรา 4 มีหน้าที่ยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินและเอกสารประกอบของตน คู่สมรส และบุตรที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะต่อผู้ร้องภายในสามสิบวันนับแต่ วันเข้ารับตําแหน่ง วันพ้นจากตําแหน่ง ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกัน และปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542 มาตรา 32 และมาตรา 33 ผู้ถูกกล่าวหายื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินต่อผู้ร้องกรณีพ้นจากตําแหน่งรองนายกองค์การบริหารส่วนตําบลป่าไร่ โดยแสดงรายการหนี้สินของผู้ถูกกล่าวหาไม่ถูกต้อง ได้แก่ หนี้สินที่มีหลักฐานเป็นหนังสือกับบริษัท โตโยต้า มุกดาหาร ยูสคาร์ จํากัด และไม่แสดงรายการทรัพย์สินของนางสมบูรณ์ โสภะศรี คู่สมรส ได้แก่ รายการสิทธิครอบครองที่ดิน ส.ป.ก.4-01 ซึ่งการยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สิน เป็นหน้าที่สําคัญของผู้ดํารงตําแหน่งทางการเมืองที่ต้องปฏิบัติ อันเป็นมาตรการในการตรวจสอบ ทรัพย์สินและหนี้สินของผู้ดํารงตําแหน่งทางการเมืองเพื่อให้เกิดการตรวจสอบผู้ใช้อํานาจรัฐ ประกอบกับผู้ถูกกล่าวหาให้การรับสารภาพ พฤติการณ์มีเหตุอันควรเชื่อได้ว่าผู้ถูกกล่าวหามีเจตนาไม่แสดงที่มาแห่งทรัพย์สินหรือหนี้สินนั้น จึงฟังได้ว่าผู้ถูกกล่าวหาจงใจยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินต่อผู้ร้องด้วยข้อความอันเป็นเท็จหรือปกปิดข้อเท็จจริงที่ควรแจ้งให้ทราบกรณีพ้นจากตําแหน่ง รองนายกองค์การบริหารส่วนตําบลป่าไร่ มีผลห้ามมิให้ผู้ถูกกล่าวหาดํารงตําแหน่งทางการเมืองหรือดํารงตําแหน่งใดในพรรคการเมืองเป็นเวลาห้าปีนับแต่วันพ้นจากตําแหน่งตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542 มาตรา 34 วรรคสอง และการกระทําของผู้ถูกกล่าวหายังเป็นความผิดฐานเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐจงใจยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินและเอกสารประกอบต่อผู้ร้องด้วยข้อความอันเป็นเท็จหรือปกปิดข้อเท็จจริงที่ควรแจ้งให้ทราบกรณีพ้นจากตําแหน่งรองนายกองค์การบริหารส่วนตําบลป่าไร่ตามพระราชบัญญัติ ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542 มาตรา 119 ด้วย
พิพากษาว่า นายสมจันทร์ โสภะศรี ผู้ถูกกล่าวหา จงใจยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินและเอกสารประกอบต่อคณะกรรมการ ป.ป.ช. ด้วยข้อความอันเป็นเท็จหรือ ปกปิดข้อเท็จจริงที่ควรแจ้งให้ทราบกรณีพ้นจากตําแหน่งรองนายกองค์การบริหารส่วนตําบลป่าไร่ อําเภอดอนตาล จังหวัดมุกดาหาร ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542 มาตรา 32 และมาตรา 33 ห้ามมิให้ผู้ถูกกล่าวหาดํารงตําแหน่งทางการเมืองหรือดํารงตําแหน่งใดในพรรคการเมืองเป็นเวลาห้าปีนับแต่วันที่ 2 เมษายน 2558 ซึ่งเป็นวันที่พ้นจากตําแหน่งตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542 มาตรา 34 วรรคสอง กับมีความผิดตามพระราชบัญญัติประกอบ รัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542 มาตรา 119 จําคุก 2 เดือน และปรับ 8,000 บาท ผู้ถูกกล่าวหาให้การรับสารภาพ เป็นประโยชน์แก่การพิจารณา มีเหตุบรรเทาโทษ ลดโทษให้กึ่งหนึ่งตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 คงจําคุก 1 เดือน และปรับ 4,000 บาท ไม่ปรากฏว่าผู้ถูกกล่าวหาเคยได้รับโทษจําคุกมาก่อน โทษจําคุกจึงให้รอการลงโทษไว้มีกําหนด 1 ปี ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 56 ไม่ชําระค่าปรับให้จัดการตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 29, 30. (คดีหมายเลขแดงที่ อม.14/2563 วันที่ 11 ก.ย.2563)