“รมว.ยุติธรรม” มอบหมาย ‘ดีเอสไอ’ เร่งสอบสวนคดีเพจขายชุดนอนออนไลน์โกงเงินประชาชนหลายสิบล้านบาท หลังผู้เสียหายเข้าร้องทุกข์ต่อกระทรวงยุติธรรม ขณะ ‘รองอธิบดีดีเอสไอ” ยัน ดำเนินการโดยเร็วที่สุด

ว่าที่ร้อยตรีธนกฤต จิตรอารีย์รัตน์ เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม รับเรื่องขอรับความช่วยเหลือจากกลุ่มประชาชนที่ถูกหลอกลวงจากเพจขายสินค้าออนไลน์ ที่บริเวณหน้าศูนย์ยุติธรรมสร้างสุข กระทรวงยุติธรรม 

โดยว่าที่ร้อยตรีธนกฤต ระบุว่าเนื่องจากมีประชาชนที่ได้รับความเสียหายจากเพจขายสินค้าออนไลน์ที่มายื่นร้องเรียนกับทางสำนักนายกรัฐมนตรี ส่งไปถึงพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และได้ประสานงานมาทางกระทรวงยุติธรรม โดยนายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม มอบหมายให้ตนเอง ในฐานะเลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมรับเรื่องของผู้ที่ได้รับความเสียหาย และมอบให้ทางศูนย์ยุติธรรมสร้างสุข เป็นผู้ประสานงานกับพี่น้องประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อน ผ่านไปยังกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) โดยพันตำรวจโทกรวัชร์ ปานประภากร อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ ได้สั่งการให้พันตำรวจเอกอัครพล บุณโยปัษฎัมภ์ รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ ได้ร่วมกันรับเรื่องราวร้องทุกข์ของผู้ได้รับความเสียหาย ที่มีการลงทุนการขายชุดนอนผ่านทางเพจที่ใช้ชื่อว่า ชุดนอน by Shopping  เมื่อช่วงเดือนตุลาคม 2562 ผ่านบุคคลคนหนึ่งและผู้เสียหายได้โอนเงินไปแล้ว ยอดรวมจากผู้เสียหายหลายร้อยคนประมาณหลาย 10 ล้านบาท ผ่านเข้าบัญชีธนาคารในหลายบัญชี แต่เมื่อถึงกำหนดที่จะต้องส่งสินค้า กลับไม่ได้ส่งสินค้าจริง เมื่อร้องทุกข์กับเจ้าหน้าที่ตำรวจในหลายพื้นที่ ก็ทราบว่า ยังไม่มีความคืบหน้าในคดีมากนัก เนื่องจากผู้เสียหายกระจายกันอยู่ในหลายพื้นที่ ในบางส่วนเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ได้รับเรื่องเอาไว้ แต่ต่อมาในวันที่ 20 กรกฎาคม 2563 ได้มีการเปิดเพจใหม่ชื่อว่า ชุดนอนราคาส่ง นับว่าเป็นการหลอกลวงประชาชนอย่างต่อเนื่อง

ว่าที่ร้อยตรีธนกฤต เปิดเผยว่า นายสมศักดิ์ จึงมอบหมายให้กรมสอบสวนคดีพิเศษเร่งสืบสวนคดีดังกล่าว เพราะเป็นความเสียหายที่เกิดขึ้นกับประชาชนเป็นจำนวนมาก ทั้งนี้ ผู้เสียหายสามารถเข้าไปที่เว็บไซต์ของกรมสอบสวนคดีพิเศษ และสามารถลงชื่อร้องเรียนเพิ่มเติมได้

ขณะที่พันตำรวจเอกอัครพล ระบุว่า ขอให้รวบรวมรายชื่อผู้เสียหาย ส่งข้อมูลมายังศูนย์ยุติธรรมสร้างสุข เพื่อส่งเรื่องต่อมายังกรมสอบสวนคดีพิเศษและจะเร่งดำเนินการต่อไป โดยทางกรมสอบสวนคดีพิเศษ จะตรวจสอบรายละเอียดว่า ผู้ต้องหาเป็นใคร อยู่พื้นที่ใด มีเรื่องของลิขสิทธิ์เข้ามาเกี่ยวข้องหรือไม่ และเป็นเรื่องของการฉ้อโกงประชาชนหรือไม่ ยืนยันว่า จะดำเนินการอย่างเร็วที่สุด แต่หากเกรงว่าอายุความจะหมดแล้วประชาชนสามารถไปแจ้งความที่ สน.ท้องที่ก่อนได้ ทั้งนี้ เมื่อกรมสอบสวนคดีพิเศษ สอบสวนแล้วพบว่าเป็นคดีฉ้อโกงประชาชนอายุความ ก็จะยังยื่นออกไปได้อีก