นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม นายทรงศักดิ์ ทองศรี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย นางสาวมนัญญา ไทยเศรษฐ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ พร้อมคณะ ลงพื้นที่จังหวัดนครพนม เปิดโครงการนำยางพารามาใช้เพื่อปรับปรุงเพิ่มความปลอดภัยทางถนน สำหรับแผ่นยางธรรมชาติครอบกำแพงคอนกรีตและหลักนำทางยางธรรมชาติ สามารถที่จะลดแรงปะทะที่เกิดจากการชน ลดความสูญเสียจากอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นบนท้องถนน ประกอบกับมีสัดส่วนการใช้น้ำยางพาราเป็นส่วนผสมจำนวนมาก ซึ่งเป็นการช่วยเหลือเกษตรกรชาวสวนยางพารา และเป็นการดูดซับยางพาราออกจากระบบ สร้างเสถียรภาพราคายางอย่างยั่งยืนในอนาคต สร้างรายได้โดยตรงให้แก่เกษตรกร การดำเนินโครงการมีเป้าหมายการใช้ยางพาราในปีงบประมาณ 2563-2565 ประมาณ 1,007,951 ตัน คิดเป็นจำนวนเงิน 30,108 ล้านบาท และสำรวจยางพาราเพื่อเปลี่ยนทดแทนแผ่นยางพาราธรรมชาติที่เสื่อมสภาพ ปีละ 336,000 ตัน

 สำหรับกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ หลังจากที่มีการทำ MOU ระหว่างกระทรวงคมนาคม เมื่อวันที่ 12 มิถุนายน 2563 ได้มอบหมายให้กรมส่งเสริมสหกรณ์ เตรียมความพร้อมด้านการถ่ายทอดเทคโนโลยีการผลิตแผ่นยางธรรมชาติครอบกำแพงคอนกรีตและหลักนำทางยางธรรมชาติ แก่สหกรณ์ กลุ่มเกษตรกร วิสาหกิจชุมชน และได้จัดเตรียมความพร้อมสหกรณ์ในระยะที่ 1 ในปี 2563 จำนวน 30 แห่ง แยกเป็นสหกรณ์ผลิตแผ่นยางธรรมชาติครอบกำแพงคอนกรีต 17 แห่ง กำลังการผลิต 579 กิโลเมตรต่อปี สหกรณ์ผลิตหลักนำทางยางธรรมชาติ จำนวน 13 แห่ง กำลังการผลิต 832,800 ต้นต่อปี กรมส่งเสริมสหกรณ์สนับสนุนเงินทุนสหกรณ์ได้กู้เงินเพื่อไปลงทุน ปัจจุบันมีสหกรณ์ได้เริ่มผลิตแผ่นยางแล้ว 7 แห่ง ส่วนที่เหลือทยอยผลิตตั้งแต่เดือนพฤศจิกายนเป็นต้นไป สำหรับจังหวัดนครพนม มีสหกรณ์ กลุ่มเกษตรกร 55 แห่ง สมาชิก 8,022 ราย จำนวน 74,755 ไร่ ผลิตภัณฑ์ส่วนใหญ่เป็นยางก้อนถ้วย การแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์อย่างอื่นปริมาณน้อย ซึ่งจะสนับสนุนให้มีศักยภาพในการแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์อื่นต่อไป เพื่อสนับสนุนการใช้ยางพาราภายในประเทศให้มากขึ้นเป็นประโยชน์ต่อเกษตรกร

จังหวัดนครพนม เป็นพื้นที่ที่ได้รับการส่งเสริมเป็นเขตเศรษฐกิจพิเศษ รัฐบาลได้เล็งเห็นถึงความสำคัญในความมั่นคง ความปลอดภัยและทรัพย์สินของพี่น้องประชาชน โดยผลักดันการนำยางพารามาใช้ในการปรับปรุงเพื่อเพิ่มความปลอดภัยทางถนน ทางหลวงหมายเลข 2033 รัฐบาลได้สนับสนุนปรับปรุงเพิ่มช่องทางจราจร ถือเป็นเส้นทางสนับสนุนการท่องเที่ยว อุตสาหกรรม การขนส่ง การค้าชายแดน เป็นประตูสู่อินโดจีนที่มีศักยภาพ