นายพชร อนันตศิลป์ อธิบดีกรมสรรพสามิต ในฐานะประธานกรรมการสลากกินแบ่งรัฐบาล เปิดเผยว่า การออกสลากออนไลน์นั้น ขณะนี้ได้จ้างสถาบันการศึกษาเข้ามาช่วยในการเปิดทำประชาพิจารณ์เรื่องสลากออนไลน์ทั่วประเทศแล้ว คาดว่าจะสามารถเปิดทำประชาพิจารณ์รับฟังความคิดเห็นจากภาคประชาชนได้ในเดือนม.ค.2564
“การทำประชาพิจารณ์ครั้งนี้จะมีตัวชี้วัดที่ชัดเจน และจะต้องเห็นมีข้อสรุปว่าจะดำเนินการออกสลากออนไลน์หรือไม่ภายในปีงบประมาณ 2564 โดยตัวชี้วัดต้องตอบคำถามเหล่านี้ คือ 1.ทำหรือไม่ทำสลากออนไลน์หรือไม่ และ2.ถ้าทำสลากออนไลน์ จะดำเนินการในรูปแบบใด โดยจะยังคงการพิมพ์สลากใบไว้แบบเดิม เพราะถือเป็นรายได้หลักของสำนักงานสลาก”
สำหรับสลากออนไลน์ที่จะทำประชาพิจารณ์มีทั้งหมด 4 รูปแบบ ได้แก่ 1.สลากประเภท 2 ตัว 3 ตัว 2.สลาก 12 นักษัตร 3.สลากล็อตโต และ4.สลาก 6 หลักเหมือนสลากใบ
ทั้งนี้หลังจากได้ข้อสรุปจากทั้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และภาคประชาชนจากการเปิดทำประชาพิจารณ์ด้วยวิธีต่างๆ ทั้งทางออนไลน์และการจัดกรุ๊ปสัมมนาเรียบร้อยแล้ว จะเสนอรูปแบบสลากออนไลน์เข้าสู่การพิจารณาของคณะรัฐมนตรี(ครม.)หลังจากนั้นถึงจะออกร่างกฎกระทรวง
“ส่วนการแก้ไขปัญหาสลากเกินราคา ที่มีการขายราคามากกว่า 80 บาทที่สำนักงานสลากตั้งไว้นั้น ต้องยอมรับว่าสาเหตุของสลากราคาแพงเกิดการการที่ผู้ค้าสลากนำสลากมารวมชุดขาย ซึ่งปฏิเสธไม่ได้ว่าถ้าในแผงขายหวยมีสลากชุดก็จะสามารถดึงดูดคอหวยให้ซื้อหวยได้มากกว่าสลากใบเดี่ยว”
อย่างไรก็ตามแนวทางที่จะดำเนินการในงวดที่ 16 ธ.ค.2563 คือ การทำให้สลากโควตาและสลากแบบจองซื้อเป็นระบบเดียวกันทั้งหมด ซึ่งปัจจุบันสำนักงานสลากอยู่ระหว่างในการตัดสินใจว่าจะใช้รูปแบบ 2-2-1 คือ การพิมพ์สลากชุด 2 ที่มีเลขเหมือนกัน 2 ใบ ทั้งหมด 4 ชุด และสลากใบเดี่ยวคละเลข 1 ชุดหรือ 2-1-1-1 คือ สลากชุดที่มีเลขเหมือนกัน 2 ใบ 2 ชุด และสลากใบเดี่ยวอีก 3 ชุด โดยจะให้จังหวัดเป็นผู้คัดเลือกผู้ค้าสลากเข้ามาสู่ระบบ
อย่างไรก็ตามคาดว่าวิธีนี้จะทำให้สลากรวมชุดกันได้อย่างน้อยแค่ 2 ใบเท่านั้น จากเดิมสลากรวมชุดมาจากการจัดสรรผ่านระบบโควตาจำนวน 33 ล้านใบ ซึ่งสามารถรวมชุดได้สูงสุดถึง 30 ใบ