นายจิรุตม์ วิศาลจิตร อธิบดีกรมการขนส่งทางบก (ขบ.)ได้ออก ประกาศกรมการขนส่งทางบก เรื่อง มาตรการพึงปฏิบัติด้านการจัดการเดินรถสาธารณะภายใต้ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินที่มีความร้ายแรง ในเขตท้องที่กรุงเทพมหานคร ตามที่ได้มีประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินที่มีความร้ายแรงในเขตท้องที่กรุงเทพมหานคร ลงวันที่ 15 ตุลาคม พ.ศ. 2563 และมีข้อกำหนดออกตามความในมาตรา 9 ประกอบมาตรา 11 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 ลงวันที่ 15 ตุลาคม 2563 นั้น เพื่อดำเนินการให้เป็นไปตามประกาศและข้อกำหนดดังกล่าว
ทั้งนี้อธิบดีกรมการขนส่งทางบกจึงออกประกาศ ดังนี้
ข้อ 1 ให้ผู้ประกอบการขนส่งรถโดยสารสาธารณะ ผู้ให้บริการรถยนต์สาธารณะ และผู้ให้บริการรถจักรยานยนต์สาธารณะ หลีกเลี่ยงการใช้เส้นทางหรือปฏิบัติตามเงื่อนไขที่ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (หัวหน้าผู้รับผิดชอบในการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินที่มีความร้ายแรงตามคำสั่งนายกรัฐมนตรีที่ 36/2563 ลงวันที่ 15 ตุลาคม 2563) ประกาศกำหนดเกี่ยวกับการห้ามใช้เส้นทางคมนาคมหรือยานพาหนะ
ข้อ 2 ให้ บริษัท ขนส่ง จำกัด ควบคุมกำกับดูแลความปลอดภัยบริเวณสถานีขนส่งผู้โดยสารที่อยู่ในความรับผิดชอบในเขตกรุงเทพมหานคร ดังนี้
(1) เพิ่มความเข้มข้นและยกระดับมาตรการด้านการรักษาความปลอดภัยและความมั่นคงโดยจัดเจ้าหน้าที่ดูแลด้านความมั่นคงปลอดภัยให้เพียงพอ
(2) ตรวจสอบกล้องโทรทัศน์วงจรปิด (CCTV) และระบบสื่อสารให้ใช้งานได้ตลอดเวลา พร้อมทั้งตรวจสอบอุปกรณ์ด้านความปลอดภัยให้มีความพร้อมในการใช้งาน รวมถึงเตรียมการด้านการอพยพผู้โดยสารในกรณีเกิดเหตุฉุกเฉิน
(3) ให้มีการประชาสัมพันธ์แนะนำแนวทางปฏิบัติด้านความปลอดภัยภายในสถานีให้ประชาชนทราบ หากพบเห็นสิ่งผิดปกติหรือพบสิ่งของที่วางไว้โดยไม่มีผู้ครอบครองให้แจ้งเจ้าหน้าที่ประจำสถานี
(4) ประสานให้ความร่วมมือและอำนวยความสะดวกแก่พนักงานเจ้าหน้าที่ตามคำสั่งนายกรัฐมนตรีที่ 36/2563 ลงวันที่ 15 ตุลาคม 2563 เพื่อดำเนินการตามประกาศตามมาตรา 11 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 ลงวันที่ 15 ตุลาคม 2563
ข้อ 3 ให้ผู้โดยสารและผู้ใช้บริการสถานีขนส่งผู้โดยสารให้ความร่วมมือแก่พนักงานเจ้าหน้าที่ตามคำสั่งนายกรัฐมนตรีที่ 36/2563 ลงวันที่ 15 ตุลาคม 2563 เพื่อดำเนินการตามประกาศตามมาตรา 11 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 ลงวันที่ 15 ตุลาคม 2563
ทั้งนี้ ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป จนกว่าจะมีประกาศยกเลิกสถานการณ์ฉุกเฉินที่มีความร้ายแรงในเขตท้องที่กรุงเทพมหานครหรือมีประกาศเปลี่ยนแปลงเป็นอย่างอื่น