นางประทิ่น นาคมิตร วัย 64 ปี ประธานกลุ่มวิสาหกิจชุมชนบ้านลำสินธุ์ ตำบลลำสินธุ์ อำเภอศรีนครินทร์ จังหวัดพัทลุง เล่าว่า ปี พ.ศ. 2540 เข้ามารับช่วงต่อเป็นประธานกลุ่ม ด้วยความตั้งใจหลักคือ นำพากลุ่มให้อยู่รอด และช่วยเหลือเกษตรกรในท้องถิ่นให้มีรายได้ ซึ่งตอนนั้นเห็นกล้วยน้ำว้าและกล้วยไข่ราคาตกต่ำมาก จากกิโลกรัมละ 40 บาท ลดลงเหลือเพียงกิโลกรัมละ 3 บาท สมาชิกทุกคนลงมติเป็นเสียงเดียวกัน ‘ควรนำมาแปรรูป’
ผู้นำกลุ่มพลิกโฉมกล้วยให้กลายเป็นขนมกินเล่นแบบสแน็ค โดยเลือกใช้กล้วยไข่ เปลี่ยนเมนูพื้นๆ จากกล้วยฉาบ กล้วยเชื่อม กล้วยกวน ให้เป็นกล้วยกรอบแก้ว ปรุงรสแตกต่างจากท้องตลาดมี รสเค็ม รสหวาน รสปาปริก้า รสบาร์บีคิว ต้มยำ และรสสาหร่าย แข่งกับขนมสมัยใหม่ได้
“ผลิตภัณฑ์กล้วยกรอบแก้ว มีแบบม้วน แบบแว่น แบบสไลด์ และแบบแท่ง กรรมวิธีทำไม่ยากหัวใจสำคัญอยู่ที่การเลือกกล้วยไข่ ต้องใช้กล้วยไข่ปลูก 7 เดือน ตัดก่อนกล้วยจะสุก 3 วัน กล้วยภาคใต้ลูกเล็ก เนื้อแน่น กรอบ สาเหตุที่เลือกใช้กล้วยลักษณะนี้ รสชาติจะไม่หวาน แต่จะให้ความมัน ปรุงรสชาติแล้วเข้ากันดี”
สำหรับกรรมวิธีทำกล้วยกรอบแก้ว ผู้นำกลุ่ม เผยว่า ขั้นตอนแรก นำกล้วยสดล้างน้ำสะอาด จากนั้นนำไปปอกเปลือก แช่ในน้ำมะนาวเพื่อไม่ให้ผิวกล้วยดำ ล้างน้ำสะอาดอีกที นำไปสไลด์เป็นแผ่นบางๆ ทอดลงกระทะน้ำมันความร้อน 160 องศา ประมาณ 5 นาที ปรุงรสชาติตามต้องการ จากนั้นเข้าตู้อบอีก 3 -10 นาที ซับน้ำมันและไล่ความชื้นเพื่อป้องกันเชื้อรา
นางประทิ่น ย้ำว่า ทางกลุ่มพัฒนาสินค้ามาเรื่อยๆ ลงพื้นที่ออกบูธทั้งในประเทศและต่างประเทศ ขายได้บ้าง ไม่ได้บ้าง กระทั่งปี พ.ศ. 2552 ขณะที่กำลังอยากเพิ่มช่องทางจัดจำหน่ายและยกระดับสินค้าให้เป็นที่รู้จัก มีผู้บริหารเซเว่นฯ เข้ามาสอบถามว่า อยากลองนำกล้วยกรอบแก้วมาขายในเซเว่นไหม? จึงไม่รอช้ารีบตอบตกลงทันที
ด้วยการผลิตง่ายๆ เพียงแค่นำกล้วยน้ำว้าที่กำลังสุกยอมกำลังดี มาทำความสะอาดปลอกเปลือกและผ่าเป็นครึ่งซีก จากนำไปตากแดดในโรงเรือน ด้วยสภาพแวดล้อมและอุณหภูมิที่เหมาะสม จึงทำให้ความหวานที่มีอยู่ในกล้วยน้ำว้าคลายตัวออกมา และทำให้เนื้อกล้วยมีความเหนียวนุ่มกำลังพอดี เวลากินก็ไม่เหนียวติดมือ มีรสหวานเหมือนกินกล้วยปกติ จึงทำให้ กล้วยน้ำว้าตาก “น้ำว้า ท้าตะวัน” ได้รับความนิยมจากลูกค้าเป็นอย่างมาก ในการซื้อไปเป็นของว่างทานเล่น ที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพ เพราะได้ความหวานจากธรรมชาติและแปรรูปโดยไม่ใช้การปรุงแต่งใด ๆ
ช่องทางร้านสะดวกซื้อนับเป็นโอกาสขยายตลาดค้าปลีกที่รวดเร็ว เลยตัดสินใจยกเครื่องโรงงานสร้างใหม่เพื่ออนาคต เปลี่ยนอุปกรณ์ตั้งแต่กระบวนการผลิต บรรจุภัณฑ์ เนื้อที่โรงงานใหม่ประมาณครึ่งไร่ ใช้ระยะเวลาพัฒนาสินค้าร่วมกับซีพี ออลล์ เกือบ 1 ปีเต็ม โดยทีมงานเซเว่นฯ เข้ามาแนะนำเรื่องของการตลาด การพัฒนาคุณภาพสินค้า และบรรจุหีบห่อให้น่าสนใจ สะดุดตาผู้บริโภค