นายกรณ์ จาติกวณิช หัวหน้าพรรคกล้า โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กมีเนื้อหา ดังนี้
ตอบคำถาม 'เป๋าตัง' จากห้องเรียนธรรมศาสตร์
.
เมื่อวานผมไปเป็นอาจารย์รับเชิญที่ธรรมศาสตร์ ส่วนใหญ่พูดคุยเรื่องเศรษฐกิจ และโอกาสในอนาคตของคนรุ่นใหม่ ในส่วนหนึ่งผมได้พูดถึงโครงการ ‘คนละครึ่ง’ ของรัฐบาล
.
มีนักศึกษาถามคำถามที่ดีว่าจุดด้อยของนโยบายนี้คืออะไร และนโยบายนี้เหมาะสมหรือไม่ในเมื่อต้องใช้เงินกู้
.
ผมว่าเป็นคำถามที่ดี เป็นเรื่องที่ประชาชนต้องถาม และได้ตอบไปว่า ในมุมมองของผม โครงการนี้เป็นโครงการที่ดี เพราะเป็นความพยายามที่จะกระตุ้นเศรษฐกิจตามหน้าที่ของรัฐบาล โดยที่มีการออกแบบมาให้ผู้ได้ประโยชน์เป็นร้านค้าขนาดเล็ก (ร้านใหญ่เข้าร่วมโครงการไม่ได้) และเป็นสิทธิที่ให้กับประชาชนทั่วไป ผลของโครงการคือกระตุ้นให้มีการจับจ่ายใช้สอยมากขึ้น และลดภาระค่าใช้จ่ายให้ประชาชนที่เข้าร่วมโครงการ
.
ข้อต้องปรับปรุงคือ ประชาชนหลายคนเข้าไม่ถึงสิทธิ เพราะขึ้นทะเบียนไม่ทัน และคนยากจนจริงๆหลายคนไม่มี smartphone จึงถูกตัดสิทธิโดยปริยาย ส่วนร้านค้าหลายร้านบอกผมว่าเขาไม่เข้าโครงการนี้เพราะเขาต้องหมุนเงินทุกวัน รอการโอนเงินเข้าบัญชีข้ามวันไม่ได้ - ประเด็นเหล่านี้ต้องช่วยกันคิดว่าจะมีวิธีอุดช่องว่างอย่างไร
.
ส่วนเรื่องการใช้เงินกู้ผมอธิบายว่า งบประมาณโดยรวมเป็นงบขาดดุล ดังนั้นตามจริงก็คือทุกเรื่องที่รัฐบาลทำก็คือใช้เงินกู้และเงินภาษีคละกันไป เป็นเรื่องปกติอยู่แล้ว ดังนั้นประเด็นการใช้เงินกู้ผมมองว่าไม่ใช่สาระสำคัญ
.
สิ่งที่สำคัญก็คือเป็นการใช้เงินที่คุ้มค่าหรือไม่ รั่วไหลหรือไม่ เป็นธรรมหรือไม่ ซึ่งในกรณีนี้ผมว่าคุ้มกว่าการใช้เงินในหลายโครงการของรัฐบาลและราชการ การรั่วไหลก็น้อยมาก เพราะเงินไม่ผ่านมือนักการเมืองราชการ หรือคนกลาง ส่วนคำถามว่าเป็นธรรมหรือไม่นั้น ก็เป็นธรรมมากกว่าอีกหลายโครงการ (ตามเหตุผลที่อธิบายแล้ว) แต่ยังไม่ 100%
.
นอกจากนั้นการพัฒนา App ‘เป๋าตัง’ นี้สามารถนำไปขยายผลได้อีกหลายเรื่องที่จะเป็นประโยชน์ต่อประชาชน รวมไปถึงการสร้าง e-commerce platform ของไทย ที่จะช่วยให้เรามีช่องทางการนำสินค้าของประชาชนสู่ผู้บริโภคได้โดยตรง