พันเอกหญิงศิริจันทร์ งาทอง รองโฆษกกองทัพบก เปิดเผยว่า พลเอกณรงค์พันธ์ จิตต์แก้วแท้ ผู้บัญชาการทหารบก ห่วงใยต่อสถานการณ์น้ำท่วมในภาคใต้ เนื่องจากระดับน้ำยังคงท่วมสูงหลายพื้นที่ โดยเฉพาะที่นครศรีธรรมราช กำชับกองทัพภาคที่ 4 ช่วยดูแลประชาชนให้ปลอดภัย และคลี่คลายสถานการณ์ตามแผนการช่วยเหลือ ตามที่นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมมีบัญชา โดยจังหวัดนครศรีธรรมราช พลโท เกรียงไกร ศรีรักษ์ แม่ทัพภาคที่ 4 ได้บินสำรวจสภาพน้ำ สั่งการหน่วยทหารในพื้นที่ 8 ศูนย์บรรเทาสาธารณภัย เข้าช่วยเหลือและจัดกำลังทหารสนับสนุนส่วนราชการท้องถิ่นดูแลประชาชน ที่ศูนย์อพยพชั่วคราวโรงเรียนเทศบาลวัดท่าโพธิ์ ขณะที่ อำเภอทุ่งสง มีนำ้ป่าไหลหลากเป็นวงกว้าง กองบัญชาการช่วยรบที่ 4 ได้เข้าช่วยประชาชนแล้วเช่นกัน
สำหรับจังหวัดสงขลา มณฑลทหารบกที่ 42 ช่วยขนย้ายคนและสิ่งของ พร้อมนำนักศึกษาวิชาทหารจิตอาสา บรรจุกระสอบทรายนำไปแจกจ่ายใหักับประชาชนที่ได้รับผลกระทบในเขตอำเภอเมือง
ส่วนที่จังหวัดสุราษฎร์ธานี มณฑลทหารบกที่45 จัดกำลังพล ยุทโธปกรณ์ ยานพาหนะ ช่วยขนย้ายสิ่งของขึ้นที่สูง และขนย้ายปศุสัตว์ในพื้นที่ตำบลทุ่งเตา อำเภอบ้านนาสาร รวมทั้งกองพันทหารราบที่ 3 กรมทหารราบที่25 จัดกำลังพล ยานพาหนะ ช่วยขนย้ายสิ่งของขึ้นที่สูง อพยพประชาชนที่ตำบลท่าเคย อำเภอท่าฉาง ซึ่งมวลน้ำเพิ่มขึ้นสูงอย่างรวดเร็วจากฝนที่ยังคงตกหนัก ประกอบกับได้รับอิทธิพลน้ำหนุนมาจากพื้นที่ใกล้เคียง คาดว่าภายใน 2 วันนี้น้ำยังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
สำหรับในภาพรวม เนื่องจากห้วงพฤศจิกายน-ธันวาคม ภาคใต้จะเกิดมรสุมประจำทุกปี ที่ผ่านมาจากการเตรียมความพร้อมบรรเทาอุทกภัยช่วยเหลือประชาชนอย่างเป็นระบบของกองทัพภาคที่ 4 และได้มีการแบ่งมอบพื้นที่อย่างชัดเจน รวมถึงประสานการปฏิบัติกับทางจังหวัด ทางอำเภอ ติดต่อสื่อสารแลกเปลี่ยนข้อมูลใกล้ชิด เชื่อว่าเจ้าหน้าที่ทุกภาคส่วนมีความพร้อมเข้าดูแลผู้ที่ได้รับผลกระทบอย่างเต็มที่
ทั้งนี้ ประชาชนในพื้นที่ภาคใต้สามารถขอความช่วยเหลือได้ที่ ศูนย์บรรเทาสาธารณภัยกองทัพภาคที่ 4 หมายเลขโทรศัพท์ 075-383405 ตลอด 24 ชั่วโมง