นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ โพสต์ข้อความถึงการโยกย้ายในมหาดไทยว่า  " ท่านรองผู้ว่าราชการจังหวัดตรัง นายสายัณห์ อินทรภักดิ์ จะถวายฎีกาและฟ้องศาลปกครองกรณีไม่ได้รับการเสนอชื่อให้ดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัดแล้ว ผมรู้สึกเห็นใจท่านเป็นอย่างยิ่ง เท่าที่ทราบท่านเป็นรองผู้ว่าที่อาวุโสที่สุดในกระทรวงมหาดไทย นับระยะเวลาดำรงตำแหน่งรองผู้ว่าฯรวมทวีคูณแล้ว8ปี4เดือน ตอนย้ายออกจากยะลาก็เพื่อหลีกทางให้คนอื่นที่อาวุโสน้อยกว่าขึ้นเป็นผู้ว่าฯ เท่าที่รู้จักเป็นคนสมถะ เรียบร้อย ทำงานอย่างเดียวไม่วิ่งเต้นผู้ใหญ่ เคยเจอท่านในงานศพ งานแต่ง ท่านชอบนั่งข้างหลัง ไม่ชอบนั่งโต๊ะวี.ไอ.พี. ผมไม่โทษรมว.มท. เพราะท่านคงไม่รู้จักคนในมหาดไทย เนื่องจากท่านเป็นทหาร แต่คนกลั่นกรองงานของท่านน่าจะมีปัญหา ผมสนับสนุนให้ท่านเรียกร้องความเป็นธรรมทุกวิถีทางที่สามารถทำได้ภายใต้กฎหมาย เพราะมีคำกล่าวว่าความชั่วนั้นเลวกว่าความตาย และความอยุติธรรมเลวกว่าความทุกข์ทรมาน ทั้งนี้ เพราะความชั่วและความอยุติธรรมมีผลต่อจิตใจอย่างลึกซึ้ง(พลาโต) ฟ้องเถอะครับ! ผมก็อยากรู้จริงๆว่าศาลปกครองจะตัดสินอย่างไร "

          ก่อนหน้านี้ นายสายัณห์ อินทรภักดิ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดตรัง ได้เผยแพร่ข้อความผ่านไลน์ของข้าราชการกระทรวงมหาดไทย ว่าวันที่ 20 กันยานนี้ ตนจะไปยื่นถวายฎีกา และยื่นฟ้องศาลปกครองเกี่ยวกับความไม่เป็นธรรมในการแต่งตั้งผู้ว่าราชการจังหวัดครั้งล่าสุด เนื่องจากรับราชการจังหวัดชายแดนภาคใต้มาตั้งแต่ปี 2547 จนถึงปี 2558 เป็นเวลา 12 ปี ดำรงตำแหน่งรองผู้ว่าราชการจังหวัด รวม 8 ปี 4 เดือน อาวุโสที่สุดในประเทศไทย ดำรงตำแหน่งรอง ผวจ.มาไม่เคยทุจริตคิดชั่ว ไม่เคยกระด้างกระเดื่องต่อผู้บังคับบัญชา ไม่เคยมีปัญหาในพื้นที่ ไม่เคยยุ่งเกี่ยวกับการเมือง ตั้งหน้าตั้งตาทำงานโดยไม่เลือกงาน ทำทุกงานวันหยุดไม่มี แต่การแต่งตั้ง ผวจ.ที่ผ่านมา คนที่เป็นรอง ผวจ.มา 2 ปี และไม่ถึง 2 ปี ได้รับการแต่งตั้งหลายคน ตนจะเกษียณปี 2560 อาวุโสอันดับ1 ไต่เต้ามาด้วยงานอย่างเดียว จึงได้ถามนายกฤษฎา บุญราช ปลัดกระทรวงมหาดไทยว่าตนมีปัญหาอะไร นายกฤษฎาระบุว่าไม่มีปัญหาอะไร เสนอแล้วตามหลักอาวุโส แต่ไม่ผ่านบอร์ด จึงได้ปรึกษาผู้ใหญ่ซึ่งแนะนำให้ฟ้องศาลปกครองและถวายฎีกาไปพร้อมกันเพราะการแต่งตั้ง ผู้ว่าราชการจังหวัดต้องมีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ