รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานลงพื้นที่ตรวจราชการ จ.อุดรธานี ชมการบริหารจัดการกองทุนหมู่บ้าน บ้านท่าสี อ.หนองแสง ปลื้มตู้น้ำมันหยอดเหรียญสร้างกำไร เพิ่มคุณภาพชีวิต ลดความเหลื่อมล้ำและเป็นพลังงานที่ทุกคนเข้าถึงได้ หวังยกระดับสร้างมาตรฐานความปลอดภัยและคุณภาพน้ำมัน เชื่อเป็นอีกหนึ่งโมเดลกระตุ้นเศรษฐกิจฐานราก
นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ลงพื้นที่ตรวจราชการ จังหวัดอุดรธานี โดยภารกิจหนึ่งคือตรวจเยี่ยมการบริหารจัดการกองทุนหมู่บ้านท่าสี หมู่ 3 ต.แสงสว่าง อ.หนองแสง ที่มีสมาชิก 143 คน มีทุนหมุนเวียนกว่า 4.6 ล้านบาท ซึ่งกองทุนดังกล่าวมีการบริหารงานในงบลงทุนโครงการเพื่อสร้างผลกำไร ออกเป็น 4 โครงการสำคัญ คือ 1.ตู้น้ำมันหยอดเหรียญ 2.ตู้เติมเงิน 3.ร้านค้าประชารัฐ และ 4.กองทุนปุ๋ย เพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตของสมาชิกในโครงการและประชาชนในหมู่บ้าน ซึ่งมีผลประกอบการที่น่าพอใจ คือโครงการตู้นำมันหยอดเหรียญที่สามารถสร้างผลกำไรในระยะ 3 ปีที่ผ่านมา เป็นเงินมากกว่า 100,000 บาท
โดยในส่วนของการประกอบกิจการตู้น้ำมันหยอดเหรียญนั้น ตามกฎหมายว่าด้วยการควบคุมน้ำมันเชื้อเพลิง เป็นสถานีบริการน้ำมันประเภทหนึ่งเรียกว่าสถานีบริการน้ำมันประเภท ง โดยส่วนใหญ่จะตั้งอยู่ในชุมชนที่มีพื้นที่อยู่ไกลจากสถานีบริการน้ำมันหลัก ให้บริการคนในพื้นที่ เกษตรกร หรือนักท่องเที่ยวที่เดินทางสัญจรไปมา ซึ่งปัจจุบันภาครัฐได้มีการส่งเสริมให้เกิดการยกระดับปั๊มน้ำมันหยอดเหรียญทั้งในเรื่องมาตรฐานความปลอดภัยและคุณภาพน้ำมัน เพื่อหวังเป็นส่วนหนึ่งในการกระตุ้นเศรษฐกิจฐานราก สร้างงาน สร้างอาชีพให้เกิดความยั่งยืนในชุมชน สำหรับ ตู้น้ำมันหยอดเหรียญนั้นภายในจะมีอุปกรณ์ไฟฟ้าซึ่งจะต้องเป็นไปตามมาตรฐานความปลอดภัย สถานที่ตั้งตู้น้ำมันหยอดเหรียญ จะต้องเป็นไปตามกฎหมายกำหนด และที่สำคัญก่อนจะประกอบกิจการจะต้องแจ้งต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ โดยในเขตกรุงเทพมหานครแจ้งต่อกรมธุรกิจพลังงาน ในต่างจังหวัดแจ้งต่อองค์การปกครองส่วนท้องถิ่น(เทศบาล,อบต.) และจะต้องจดทะเบียนหัวจ่ายตามมาตรา11 ที่สำนักงานพลังงานจังหวัด ซึ่งการประกอบกิจการจะต้องปฏิบัติให้ถูกต้องครบถ้วนตามกฏหมายเพื่อความปลอดภัย
“ผมยินดีที่ภาคพลังงาน อย่างสเกลเล็กๆแบบตู้น้ำมันหยอดเหรียญนี้ ได้เข้ามามีส่วนในการสร้างเม็ดเงิน ต่อยอดกองทุนหมู่บ้านได้ อำนวยความสะดวกให้กับชุมชนและเกษตรกรได้เข้าถึงพลังงานอย่างทั่วถึง ซึ่งที่ผ่านมาได้รับรายงานว่าตำบลหรือหมู่บ้านที่ได้รับจัดสรรงบประมาณก็มีการรวมตัวกันเพื่อจัดหาตู้น้ำมันหยอดเหรียญมาให้บริการสมาชิกในตำบล หรือหมู่บ้าน เนื่องจากชาวบ้านเห็นร่วมกันว่าเป็นประโยชน์ต่อสมาชิกในพื้นที่ และยังสามารถสร้างงาน สร้างรายได้ให้กับคนในชุมชน สอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาล ในส่วนของกระทรวงพลังงานจะพยายามยกระดับสร้างมาตรฐานของตู้น้ำมัน ให้มีความปลอดภัย มีคุณภาพให้ถูกต้องตามกฎหมาย ซึ่งมอบหมายกรมธุรกิจพลังงานและสำนักงานพลังงานจังหวัดทั่วประเทศเข้าไปดูแล ส่งเจ้าหน้าที่ตรวจสอบความปลอดภัย 2 ครั้งต่อปี” นายสุพัฒนพงษ์ กล่าว