ปากเสียงของคนท้องถิ่น เพื่อการพัฒนาประเทศ
พลังงาน / สิ่งแวดล้อม ย้อนกลับ
พีทีจีรุกธุรกิจLPGเชื่อตลาดโตลุยขยายศูนย์ตจว.
12 ธ.ค. 2563

นายพิทักษ์ รัชกิจประการ ประธานบริหาร และซีอีโอ บมจ.พีทีจี เอ็นเนอร์ยีจำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ธุรกิจ LPG เป็นธุรกิจที่มีกำไรที่ดี หากเทียบกับน้ำมัน ซึ่งมีกำไรขั้นต้น (GP) เพียง 8-9% ส่วนกำไรสุดท้ายของน้ำมันเหลือแค่ 1% เศษ ขณะที่ LPG มีกำไรเกือบ 3 เท่าของน้ำมันโดยเฉลี่ย

“เรามองแนวโน้มธุรกิจ LPG ยังมีโอกาสเติบโตได้อีก เพราะปัจจุบันเรามีสมาชิกอยู่ประมาณ 2,000 ราย จากจำนวนแท็กซี่ที่ใช้ LPG ทั้งหมด ดังนั้นจะทำอย่างไรที่จะให้เพิ่มเป็น 20,000 ราย เพิ่มขึ้น 9 เท่า”

ทั้งนี้ ปีหน้าพีทีจีจะปรับกลุ่มธุรกิจใหม่จากเดิมที่เราให้ LPG และน้ำมันเครื่องอยู่กลุ่มน็อนออยล์ ขณะที่น้ำมันจะอยู่กลุ่มออยล์ แต่จากนี้จะปรับเป็นกลุ่มเอเนอร์ยี่ และน็อนเอเนอร์ยี่

 ในปี 2564 ทางพีทีจีตั้งเป้าว่าจะเพิ่มส่วนแบ่งตลาดก๊าซ LPG ขยับขึ้นจากอันดับ 5 เป็นอันดับ 3 และมีแผนจะนำธุรกิจนี้เข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) ในปี 2565เพราะถึงแม้ว่าภาพรวมการใช้จะลดลง 12% จากผลกระทบของการแพร่ระบาดของโควิด แต่จุดแข็งของธุรกิจนี้คือ ค่าการตลาดดีมาก ประมาณ 21-22% เทียบกับน้ำมัน ประมาณ 7-8% ทำให้กำไรสุทธิก๊าซ 7% แต่น้ำมันมีกำไรสุทธิเพียง 1%

โดยจุดแข็งที่สำคัญของปั๊ม LPG ของพีที คือ การวางระบบสมาชิกพีทีแม็กการ์ดที่ใช้สะสมแต้มได้ทั้งน้ำมันและก๊าซ LPG อัตราคะแนนสะสมก็เท่ากัน ได้สิทธิประโยชน์ในการใช้บริการและซื้อสินค้าจากพันธมิตรเรานับ 100 ราย ไม่ใช่แค่อาหาร เครื่องดื่ม

ซึ่งจะเห็นว่าพีทีจีทยอยจัดแคมเปญส่งเสริมการขายกับกลุ่มลูกค้าแท็กซี่ซึ่งเป็นกลุ่มเป้าหมายอย่างต่อเนื่อง ทั้งให้สิทธิพิเศษการฉีดพ่นน้ำยาฆ่าเชื้อป้องกันการแพร่ระบาดของโควิด-19 สำหรับแท็กซี่ และล่าสุดที่ได้จัดทำโครงการ PT LPG เพื่อแท็กซี่สู้โควิด มอบคูปองส่วนลดค่าพลังงานให้แท็กซี่ 1,000 บาทต่อคัน 10,000 คันด้วย

นายสุวัชชัย พิทักษ์วงศาภรณ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท โอลิมปัส ออยล์จำกัด ในกลุ่มพีทีจี เปิดเผยว่า บริษัทมีแผนจะขยายจำนวนสถานีบริการก๊าซ LPG ในปีหน้า 50 สถานี จากปัจจุบันที่มีจำนวน 200 สถานี โดยมุ่งเน้นพื้นที่กรุงเทพฯ ปริมณฑล และภาคกลางเป็นหลัก โดยอาศัยกรอบงบฯลงทุนที่วางไว้ทั้งปั๊มก๊าซและน้ำมันรวม 3,000 ล้านบาท

 “สัดส่วนกลุ่มลูกค้าหลักแท็กซี่ยังไม่ได้มีจำนวนมากนัก ในประเทศไทยมีจำนวนแท็กซี่ประมาณ 80,000 คัน ซึ่งเป็นคันที่ใช้ LPG ประมาณ 20,000 คัน และลูกค้าที่แอ็กทีฟจริง ๆ วันนี้มีเพียง 2,500 คัน โครงการคูปองเข้ามา จะช่วยเพิ่มจำนวนแท็กซี่ให้เข้ามาอยู่ในกลุ่ม ecosystem ของเรามากขึ้น”

นอกจากนี้ให้บริการเติมรถแล้ว ยังมีการจัดจำหน่ายก๊าซหุงต้ม LPG บรรจุถัง ซึ่งทั้งประเภทร้านจำหน่ายที่มีบริการส่งถึงบ้าน เปิดไปแล้ว 90 แห่ง คาดว่าถึงสิ้นปี 2563 จะเปิดดำเนินการได้ครบตามเป้าหมาย 100 แห่ง ซึ่งปีหน้าจะขยายร้าน 50 ร้านค้า งบประมาณการลงทุน บริษัทดำเนินการเองแห่งละ 250,000-300,000 บาท

นอกจากนี้ ยังมีร้านคีออสก์ ซึ่งเป็นช็อปขนาดเล็ก ไม่มีบริการส่ง อีกประมาณ 100 แห่ง เพื่อให้บริการลูกค้าที่นำถังก๊าซหุงต้มเปล่าจากที่บ้านมาเติมเองไม่มีบริการส่ง และไม่ได้เป็นแฟรนไชส์

“ยอดขายก๊าซน่าจะรีคัฟเวอร์มาตั้งแต่เดือนมกราคมแล้วมีประมาณ 14 ล้านลิตร เดือนตุลาคม-พฤศจิกายน เริ่มฟื้นตัวจากช่วงโควิดทำให้มียอดขายกลับมาเท่ากับเดือนมกราคม ค่าเฉลี่ยเดือนละ 8,200 ตัน รวมทั้งขนส่งและหุงต้ม”

“แต่หากแยกเฉพาะยอดขายก๊าซหุงต้มเดือนละ 600-800 ตัน ธ.ค.จะได้ 1,000 ตัน รวมทั้งปี 3,000-4,000 ตัน ทำให้เป็นเบอร์ 4 รองจาก WP (เวิลด์แก๊ส) ส่วนราคาจำหน่ายปลีก LPG ยังอยู่ในการควบคุมราคา ตามที่รัฐบาลประกาศให้ช่วยลดราคาเพื่อบรรเทาภาระค่าครองชีพ 3 บาทต่อ กก. ซึ่งโครงการนี้จะหมดประมาณต้นปี 2564”

สำหรับโรงบรรจุก๊าซทางบริษัทมีทั้งหมด 4 โรง โดยที่สุขสวัสดิ์ กรุงเทพฯ เป็นโรงแรกที่เปิดดำเนินการไปแล้ว และกำลังจะเปิดเป็นแห่งที่ 2 ที่ อ.มะขาม จ.จันทบุรี จะเปิด 15 ธ.ค.นี้ ยังเหลืออีก 2 โรง ที่ อ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี

 

หนังสือพิมพ์ OPT NEWS ONLINE
วันที่ 16 - 30 พฤศจิกายน 2567
อปท.นิวส์เชิญเป็นแขก ดูทั้งหมด
12 ก.ย. 2567
กล่าวได้ว่าบทบาทของตำรวจไทยทั้งในอดีตและปัจจุบัน หลายท่านหลายคน หลังจากผ่านความเหน็ดเหนื่อย ความยากลำบากในการผดุงความยุติธรรม ไล่จับคนร้ายทั้งตัวใหญ่ตัวเล็กมาตลอดชีวิตราชการ เห็นความทุกข์ยาองประชาชน เห็นปัญหาของสังคมในทุกแง่มุม อดไม่ได้ที่หลังเกษียณจะก้าวเข้าส...