นายสุชาติ พรชัยวิเศษกุล อธิบดีกรมการจัดหางาน เผยความคืบหน้า หลังกรมการจัดหางานร่วมกับกองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดชัยภูมิ จับกุม 5 สาย/นายหน้าเถื่อน หลอกลวงคนงานไทย 40 คน ไปทำงานประเทศแคนาดา เสียหายกว่า 7 ล้านบาท
นายสุชาติ เปิดเผยว่า ตามที่ได้สั่งการสำนักงานจัดหางานจังหวัดชัยภูมิ เร่งตรวจสอบติดตามผลการติดตามตัวผู้กระทำความผิดในข้อหาร่วมกันหลอกลวงคนหางานไปทำงานประเทศแคนาดา ซึ่งล่าสุดสำนักงานจัดหางานจังหวัดชัยภูมิ และกองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดชัยภูมิ ได้ร่วมกันจับกุมผู้ต้องหา จำนวน 5 คน เป็นชาย 2 คน และหญิง 3 คน ขณะนี้ถูกฝากขังอยู่ที่สถานีตำรวจภูธรภูเขียว จังหวัดชัยภูมิ เพื่อดำเนินคดีตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป สำหรับสาย/นายหน้าจัดหางานเถื่อนกลุ่มนี้ มีเครือข่ายในหลายพื้นที่ และมีคนหางานร้องทุกข์ดำเนินคดีมาตั้งแต่ต้นปี 2563 จนเกิดการบูรณาการทำงานร่วมกัน นำไปสู่การขยายผลจับกุมได้ในที่สุด
อธิบดีกรมการจัดหางาน ยังกล่าวต่อไปว่า ขอให้คนหางานที่ต้องการไปทำงานต่างประเทศ ตรวจสอบข้อมูลตำแหน่งงาน ลักษณะงาน ตลอดจนประเทศที่จะไปจากเจ้าหน้าที่ของกรมการจัดหางาน ก่อนตัดสินใจจ่ายเงินหรือโอนเงินให้กับผู้ใด โดยหากผู้มาชักชวนไปทำงานอ้างว่าเป็นตัวแทนบริษัทจัดหางาน สามารถตรวจสอบข้อมูลบริษัทจัดหางานให้คนหางานเพื่อไปทำงานในต่างประเทศที่ได้รับอนุญาตจากกรมการจัดหางานได้ที่หน้าเว็บไซต์ของ กองทะเบียนจัดหางานกลางและคุ้มครองคนหางาน www.doe.go.th/prd/ipd ซึ่งขณะนี้มีบริษัทที่ได้รับอนุญาตทั้งสิ้น 127 บริษัท
“อย่างไรก็ดี กรมการจัดหางานมีพนักงานเจ้าหน้าที่ตาม พ.ร.บ.จัดหางานและคุ้มครองคนหางาน พ.ศ.2528 ที่เฝ้าระวัง ติดตาม ตรวจสอบอย่างเข้มงวด และขอเตือนผู้ที่คิดหลอกลวงคนหางานว่า การหลอกลวงผู้อื่นว่าสามารถหางาน หรือส่งไปฝึกงานในต่างประเทศได้ โดยการหลอกลวงดังว่านั้นได้ไปซึ่งเงินหรือทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใดจากผู้ถูกหลอกลวง ต้องระวางโทษจำคุก 3-10 ปี หรือปรับตั้งแต่ 60,000 – 200,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และการโฆษณาการจัดหางานโดยไม่ได้รับอนุญาตจากกรมการจัดหางาน มีความผิด ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 60,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ” อธิบดีกรมการจัดหางาน กล่าวเพิ่มเติม