นายสมชาย หาญหิรัญ ประธานกรรมการ ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (ธพว.หรือ SME Development Bank) เปิดเผยว่า ธพว.ในฐานะหน่วยร่วมในศูนย์SME Rescue Center ได้ช่วยผลักดันลูกค้าที่เสนอเรื่องผ่านศูนย์ดังกล่าวเข้าสู่กองทุนพลิกฟื้น SMEs โดยในการประชุมคณะกรรมการกองทุนดังกล่าว  เมื่อวันที่ 20 ก.ย.2559 นั้น  ธพว.ได้นำเสนอลูกค้าที่เข้าเกณฑ์กองทุนจำนวน 4 ราย ซึ่งได้รับอนุมัติเป็นกลุ่มแรก รวมวงเงิน 2.2 ล้านบาท โดยได้รับเงินทุนแบบไม่ต้องเสียดอกเบี้ยตลอดระยะเวลา7 ปี เพื่อนำไปต่อยอดธุรกิจให้สามารถพลิกฟื้นกิจการกลับมาเข้มแข็งได้ใหม่

           ทั้งนี้ ลูกค้าทั้ง 4 ราย ประกอบด้วย 1. กิจการผู้ผลิตและจำหน่ายกระเบื้องแกรนิตโต้ ซึ่งเป็นลูกหนี้ที่มีการปรับปรุงโครงสร้างหนี้แล้ว แต่เนื่องจากกิจการไม่สามารถขยายตลาด และบุคลากรขาดความรู้ในเรื่องการใช้สื่อออนไลน์ ประกอบกับต้นทุนทางธุรกิจสูง ทำให้กิจการขาดเงินทุนหมุนเวียนในการทำธุรกิจ ดังนั้น จึงได้รับวงเงินในการไปพลิกฟื้นกิจการ จำนวน 1 ล้านบาท โดยมีระยะเวลาปลอดชำระคืนเงินต้น 2 ปี

          รายที่ 2 กิจการจำหน่ายปุ๋ย เป็นอีกหนึ่งผู้ประกอบการที่ได้รับการปรับปรุงโครงสร้างหนี้แล้ว แต่กิจการประสบปัญหาขาดเงินทุนหมุนเวียนในการดำเนินธุรกิจ ซึ่งได้รับอนุมัติเงินช่วยเหลือจากโครงการนี้ 1.2 แสนบาท และมีระยะเวลาปลอดชำระคืนเงินต้น 6 เดือน

         รายที่ 3 กิจการตุ๊กตาผ้า เป็นลูกหนี้ที่ผ่านการปรับปรุงโครงสร้างหนี้ แต่ยังขาดเงินหมุนเวียนในกิจการ ทำให้ไม่สามารถเพิ่มกำลังการผลิตได้ เนื่องจากในปัจจุบัน การผลิตใช้กำลังคนในการดำเนินการ บริษัทจึงมีแนวทางที่จะซื้อเครื่องจักรเพิ่มเพื่อเพิ่มกำลังผลิตดังกล่าว โดยได้รับอนุมัติวงเงินจากโครงการ 5 แสนบาท มีระยะเวลาปลอดชำระคืนเงินต้นนาน 2 ปี และรายที่ 4 ผู้ประกอบการติดตั้งและซ่อมแซมเครื่องปรับอากาศ มีปัญหาวัตถุดิบที่ใช้ในการให้บริการมีราคาต้นทุนสูง บริษัทขาดเงินทุนในสต๊อกวัตถุดิบ จึงไม่สามารถให้บริการกับลูกค้ากับขนาดใหญ่ได้ ทั้งที่กิจการมีศักยภาพและความชำนาญในการประกอบธุรกิจ และขณะนี้กิจการขาดเงินทุนหมุนเวียนในการดำเนินธุรกิจ ซึ่งได้รับการช่วยเหลือจากโครงการนี้วงเงิน 6 แสนบาท ปลอดชำระคืนเงินต้น 6 เดือน

          ประธานกรรมการ ธพว. กล่าวเพิ่มเติมว่า ลูกค้าที่ผ่านการปรับโครงสร้างหนี้แล้ว ธพว.จะพยายามเพิ่มเงินทุนให้สามารถดำเนินธุรกิจต่อไปได้ ซึ่งหากรายได้ยังไม่สามารถปล่อยกู้ในระบบปกติได้จะนำเสนอเข้ากองทุนนี้ ซึ่งมีความยืดหยุ่นหลักเกณฑ์ค่อนข้างมาก โดยขณะนี้ได้เร่งให้ฝ่ายจัดการคัดเลือกลูกค้าที่เข้าเกณฑ์กองทุนดังกล่าว ซึ่งมีอีกว่า 500 ราย ทยอยนำเสนอขออนุมัติโดยเร็วต่อไป