ธนาคารกรุงศรีอยุธยา ประกาศว่า ธนาคารได้รับรายงานยืนยันผลการตรวจจากแพทย์ในวันที่ 3 มกราคม 2564 ว่า พนักงาน 2 รายจากสาขาพาราไดซ์ พาร์ค และพนักงาน 1 รายจากสาขาเทสโก้ โลตัส สุขุมวิท 50 จังหวัดกรุงเทพมหานคร ติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID – 19) จากการไปรับประทานอาหารภายนอก เมื่อวันที่ 29 ธันวาคม 2563

ทั้งนี้ พนักงานมาปฏิบัติงานที่สาขาล่าสุดในวันที่ 30 ธันวาคม 2563 และมาทราบภายหลังว่ามีผู้ติดเชื้อในสถานที่ดังกล่าว ขณะนี้พนักงานรายดังกล่าวได้เข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

ทั้งนี้ ธนาคารกรุงศรีอยุธยาจึงได้เร่งดำเนินการตามมาตรการอย่างเคร่งครัด โดยให้พนักงานที่มีความเกี่ยวข้องกับพนักงานรายดังกล่าวพบแพทย์เพื่อรับการตรวจคัดกรองและให้หยุดปฏิบัติงานโดยทันที รวมถึงกักตนเองเพื่อเฝ้าดูอาการจนครบ 14 วัน และติดตามการรายงานสุขภาพอย่างใกล้ชิด ตามมาตรการเฝ้าระวังและป้องกันการแพร่ระบาดของโรค COVID-19 ของกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข ทั้งนี้ ธนาคารยังไม่พบผู้เกี่ยวข้องใกล้ชิดติดเชื้อ COVID–19 เพิ่มเติม

ดังนั้น ธนาคารจึงได้ดำเนินการปิดทำการสาขาพาราไดซ์ พาร์ค และสาขาเทสโก้โลตัส สุขุมวิท 50 ตั้งแต่วันที่ 4–15 มกราคม 2564 เพื่อทำความสะอาดและอบโอโซนฆ่าเชื้อโรค โดยจะเปิดให้บริการตามปกติในวันที่ 16 มกราคม 2564 รวมถึงรายงานกรณีดังกล่าวให้กระทรวงสาธารณสุข รวมถึงธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) รับทราบเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

ส่วนสาขาอื่น อย่างเช่น แม่สอด, เซ็นทรัล ชลบุรี, แกลง เป็นต้น รวมทั้งหมด 10 สาขา ธนาคารได้ปิดทำความสะอาดและอบโอโซนฆ่าเชื้อโรค เนื่องจากอยู่ในพื้นที่เสี่ยง และพบว่าบ้างสาขามีลูกค้าหรือครอบครัวของลูกค้าที่ติดเชื้อโควิด-19 เข้ามาใช้บริการ

ทั้งนี้ ลูกค้าสามารถใช้บริการที่สาขาใกล้เคียงคือ สาขาสี่แยกศรีนครินทร์-อ่อนนุช (แทนสาขาพาราไดซ์ พาร์ค) และสาขาบิ๊กซี อ่อนนุช (แทนสาขาเทสโก้โลตัส สุขุมวิท 50) หรือใช้บริการของธนาคารผ่านช่องทางอิเล็กทรอนิกส์ Krungsri Online (KOL) และ Krungsri Mobile App (KMA) ที่สะดวก รวดเร็ว และปลอดภัย

“กรุงศรีขอเน้นย้ำว่าธนาคารมีมาตรการเฝ้าระวังและป้องกันการแพร่ระบาดไวรัส COVID-19 ที่เป็นมาตรฐานตามคำแนะนำของกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข และจัดให้มีการทำความสะอาดและฆ่าเชื้อโรคเป็นประจำในบริเวณที่เสี่ยงต่อการแพร่กระจายของเชื้อโรคอย่างเคร่งครัดโดยคำนึงถึงสุขภาพอนามัยและความปลอดภัยของลูกค้า พนักงาน และผู้มาติดต่อเป็นสำคัญ”