นายภานุ แย้มศรี ผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา เป็นประธานในพิธีเปิดงาน “ตลาดหน้าเดิน ช้อปเพลินสินค้าชุมชน ณ ตลาดต้องชม ตลาดโก้งโค้งบ้านแสงโสม” จัดโดยสำนักงานพาณิชย์จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ผู้จัดงานสนับสนุนส่งเสริมการท่องเที่ยว พร้อมทั้งช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อยในชุมชนให้ได้มีแหล่งสร้างอาชีพ สร้างรายได้ โดยมี นางกาญจนา ชมมี พาณิชย์จังหวัดพระนครศรีอยุธยา พร้อมด้วย หัวหน้าส่วนราชการ ประชาชน และผู้ประกอบการในตลาด เข้าร่วมกิจกรรมในครั้งนี้ ดำเนินการจัดงานภายใต้มาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) อย่างเคร่งครัด                      

ตลาดโก้งโค้งบ้านแสงโสมจังหวัดพระนครศรีอยุธยาแห่งนี้ เริ่มเปิดบริการครั้งแรกเมื่อวันที่ 29 มกราคม 2549 เป็นตลาดที่มีเสน่ห์ไม่เหมือนใคร ด้วยเอกลักษณ์ของตลาดที่เป็นแบบย้อนยุค เมื่อสมัยกรุงศรีอยุธยามีพ่อค้าแม่ค้าแต่งกายชุดไทยโบราณนั่งขายสินค้ากับพื้น หรือนั่งบนแคร่วางสินค้าที่ไม่สูงมากนัก ทำให้คนซื้อต้องโก้งโค้งเพื่อเลือกซื้อสินค้า ซึ่งเป็นอากัปกิริยาที่แสดงออกถึงความสุภาพและอ่อนน้อมถ่อมตนตามแบบฉบับคนไทย จนกลายเป็นมนต์เสน่ห์ที่สามารถดึงดูด ให้มีนักท่องเที่ยวเข้ามาเป็นจำนวนมาก ซึ่งตลอดระยะเวลายาวนาน คนในชุมชนได้ร่วมมือร่วมใจกัน รวมถึงภาครัฐ และเอกชนได้เข้ามาส่งเสริมสนับสนุน จนทำให้ตลาดเกิดความเข้มแข็งและยั่งยืน สามารถสร้างอาชีพ และสร้างรายได้ให้แก่คนในชุมชนได้เป็นอย่างดี ซึ่งปัจจุบันมีร้านค้าเพิ่มขึ้นถึงกว่า 100 ร้านค้า

 จังหวัดพระนครศรีอยุธยา โดยสำนักงานพาณิชย์จังหวัดพระนครศรีอยุธยา กำหนดจัดงานในครั้งนี้ขึ้น ระหว่างวันที่ 8-10 ธันวาคม 2564 เพื่อต้องการส่งเสริมการตลาดภายในประเทศ โดยใช้ตลาดชุมชนเป็นเครื่องมือในการสร้างรายได้ เพื่อช่วยเหลือพี่น้องเกษตรกร และกลุ่มวิสาหกิจชุมชน จึงทำให้การดำเนินงานของ “ตลาดโก้งโค้ง บ้านแสงโสม” แห่งนี้ จึงถูกยกให้เป็นตลาดต้องชมแห่งแรกของจังหวัดพระนครศรีอยุธยา และเป็นตลาดต้องชม 1 ใน 159 ของประเทศที่ได้เปิดขึ้นแล้วในปัจจุบัน กิจกรรมภายในงานท่านจะได้สัมผัสบรรยากาศวิถีชีวิตแบบไทย ให้ร่วมสืบสานวัฒนธรรมและภูมิปัญญา สินค้าท้องถิ่น สาธิตงานฝีมือขนมไทย ชมการแสดงศิลปวัฒนธรรม ร่วมสนุกภายในงาน ลุ้นรับของรางวัลมากมาย ซึ่งผู้ค้าในตลาดโก้งโค้งและผู้เข้าร่วมงาน ถือปฏิบัติตามมาตรการป้องกันการแพร่ระบาด อย่างเคร่งครัด โดยต้องสวมหน้ากากฯ อย่างถูกต้อง มีการวัดอุณหภูมิ มีเจล/แอลกอฮอล์ล้างมือ จัดเว้นระยะห่าง และสแกนไทยชนะ และถือปฏิบัติตามมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) อย่างเคร่งครัด