กองอำนวยการน้ำแห่งชาติ (กอนช.) เฝ้าระวังปริมาณน้ำในพื้นที่ภาคใต้ตอนล่างแม้ฝนจะลดลงแล้ว โดยเฉพาะพื้นที่ท้ายน้ำของจังหวัดยะลาและปัตตานี
กองอำนวยการน้ำแห่งชาติ (กอนช.) ได้รายงานสถานการณ์น้ำภาพรวมของประเทศวันนี้ (11 ม.ค.64) ว่า ภาคใต้ฝนลดลงส่วนใหญ่เป็นฝนเล็กน้อยถึงปานกลาง โดยแม่น้ำสายหลักทุกภาคน้ำน้อยถึงน้ำปกติ ยกเว้นภาคใต้น้ำปกติถึงน้ำมากวิกฤติและมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น ภาพรวมปริมาณน้ำใช้การแหล่งน้ำขนาดใหญ่ 19,132 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือร้อยละ 40 จุดเฝ้าระวังน้ำน้อยยังคงอยู่ในพื้นที่ 13 แห่ง แบ่งเป็น ภาคเหนือ 10 แห่ง , ภาคตะวันออก 1 แห่ง และภาคตะวันตก 2 แห่ง โดย กอนช. จะเร่งดำเนินการหลังนายกรัฐมนตรีได้กำชับให้กระทรวงมหาดไทย กองทัพ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้การช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่ประสบอุทกภัยภาคใต้ ทั้งการขนย้าย อพยพ เร่งระบายน้ำ การมอบสิ่งของเพื่อบรรเทาความเดือดร้อน ควบคู่กับประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนได้รับทราบสถานการณ์อุทกภัยต่อเนื่อง และกำชับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องช่วยเหลือซ่อมแซมบ้านเรือนประชาชน เตรียมความพร้อมสำรวจความเสียหาย เพื่อฟื้นฟูเยียวยาผลกระทบตามเกณฑ์ที่กระทรวงการคลังกำหนด ทั้งนี้ กอนช. ได้ให้การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ดำเนินการหน่วงน้ำที่เขื่อนบางลางด้วยการเก็บกักน้ำเพิ่มให้ได้มากที่สุดและคำนึงถึงความมั่นคงตัวเขื่อนด้วย พร้อมทั้งให้พิจารณาลดการระบายน้ำจากทางระบายน้ำล้นต่อเนื่องชั่วโมงละ 10 เซนติเมตร และปิดบานระบายแล้วเมื่อเวลา 24.00 น.ของวันที่ 10 มกราคม คงเหลือการระบายน้ำผ่านเครื่องกำเนิดไฟฟ้า 145 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาทีเท่านั้น เพื่อลดปริมาณน้ำหลากในแม่น้ำปัตตานีที่ไหลไปยังด้านท้ายน้ำบริเวณจังหวัดยะลาและปัตตานี เพื่อช่วยลดผลกระทบพื้นที่น้ำท่วม คาดการณ์จะสามารถลดระดับน้ำแม่น้ำปัตตานีให้กลับเข้าสู่ภาวะปกติได้ภายในวันที่ 12 มกราคมนี้
กองอำนวยการน้ำแห่งชาติ (กอนช.) ยังได้เฝ้าระวังคุณภาพน้ำเพื่ออุปโภค-บริโภค บริเวณแม่น้ำเจ้าพระยา ณ สถานีสูบน้ำสำแล จ.ปทุมธานี มีค่าความเค็มอยู่ในเกณฑ์มาตรฐาน ส่วนน้ำเพื่อการเกษตร บริเวณแม่น้ำแม่กลอง และแม่น้ำบางปะกง มีค่าความเค็มอยู่ในเกณฑ์มาตรฐานเช่นกัน ยกเว้นแม่น้ำท่าจีน มีค่าความเค็มสูงกว่าเกณฑ์