นายแพทย์โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า จากรายงานของกรมอุตุนิยมวิทยา พบว่าในช่วงนี้ประเทศไทยมีสภาพอากาศหนาวเย็นลงอย่างต่อเนื่อง ประกอบกับมีลมแรง โดยเฉพาะบริเวณภูเขาและยอดดอยทางภาคเหนือและภาคอีสาน อากาศหนาวถึงหนาวจัด ทำให้อุณหภูมิในบางพื้นที่อาจต่ำกว่า 10 องศาเซลเซียสได้นั้น ขอให้ประชาชนดูแลรักษาสุขภาพให้แข็งแรง ควรสวมเสื้อผ้าให้ความอบอุ่นร่างกายอยู่เสมอ และที่สำคัญในช่วงนี้ขอให้เพิ่มการดูแลระมัดระวังเป็นพิเศษในกลุ่มเสี่ยงด้วย
กรมควบคุมโรค ขอแนะนำ 6 วิธีปฏิบัติในการรับมืออากาศหนาว ดังนี้ 1.ดูแลสุขภาพร่างกายให้แข็งแรงด้วยการออกกำลังกาย รับประทานอาหารครบ 5 หมู่ ดื่มเครื่องดื่มที่สามารถให้ความอบอุ่นแก่ร่างกาย และทาผลิตภัณฑ์ให้ความชุ่มชื่นของผิวหนัง 2.เตรียมเครื่องนุ่งห่มกันหนาวให้พร้อมและทำความสะอาดเสื้อผ้าหรือผ้าห่ม โดยเฉพาะเสื้อผ้ามือสองให้แช่ด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อหรือต้ม เพื่อป้องกันโรคผิวหนัง 3.งดดื่มสุราหรือเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทุกชนิดในช่วงภาวะอากาศหนาว เนื่องจากเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์เป็นปัจจัยเสริมที่สำคัญทำให้เสี่ยงต่อการเสียชีวิตได้และไม่ช่วยทำให้ร่างกายอบอุ่น 4.ระมัดระวังและสังเกตอาการผู้ป่วยที่กินยาบางชนิด เช่น ยากล่อมประสาท ยารักษาอาการชัก และอื่นๆ ที่มีผลทำให้อุณหภูมิร่างกายลดต่ำลง 5.ในช่วงอากาศหนาวอาจทำให้เสี่ยงเกิดโรคติดต่อระบบทางเดินหายใจได้ง่าย โดยเฉพาะโรคไข้หวัดใหญ่ และโรคโควิด 19 ที่มีการติดต่อในลักษณะเดียวกัน จึงขอให้ประชาชนยึดหลัก “ปิด ล้าง เลี่ยง หยุด” และปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโรคโควิด 19 ได้แก่ ปิดคือ ปิดปาก ปิดจมูก เมื่อไอ จาม โดยการสวมหน้ากากผ้าหรือหน้ากากอนามัยตลอดเวลาเมื่ออยู่นอกบ้าน ล้างคือ ล้างมือบ่อยๆ เมื่อสัมผัสสิ่งของต่างๆ ด้วยน้ำและสบู่ หรือเจลแอลกอฮอล์ เลี่ยงคือ หลีกเลี่ยงการคลุกคลีใกล้ชิดกับผู้ป่วย ควรเว้นระยะห่าง แยกของใช้ และหลีกเลี่ยงสถานที่แออัด หยุดคือ เมื่อป่วยควรหยุดเรียน หยุดงาน หยุดกิจกรรมที่อยู่ในสถานที่แออัด และ 6.หมั่นดูแลรักษาร่างกายให้อบอุ่นอยู่เสมอ และอาศัยอยู่ในที่อบอุ่น สามารถป้องกันลมหนาวได้อย่างเหมาะสม
นายแพทย์โอภาส กล่าวเพิ่มเติมว่า ในช่วงนี้ขอให้ประชาชนดูแลสุขภาพของตนเองและคนในครอบครัวอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะกลุ่มเสี่ยงที่ต้องเพิ่มการดูแลและระมัดระวังเป็นพิเศษ ได้แก่ กลุ่มเด็ก ผู้สูงอายุ และผู้ที่มีโรคประจำตัว เนื่องจากกลุ่มดังกล่าวนี้เสี่ยงต่อการเจ็บป่วยได้ง่าย หากป่วยจะมีอาการรุนแรงมากกว่ากลุ่มอื่น ถ้าพบว่ามีอาการป่วยให้รีบไปพบแพทย์ทันที สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่สายด่วนกรมควบคุมโรค โทร.1422