นายบุญเสริม  ไกรสินธุ์ ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมสหกรณ์กรุงเทพมหานครพื้นที่ 2 กรมส่งเสริมสหกรณ์ เปิดเผยว่า ตามที่พล.อ ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี มีความเป็นห่วงและให้ความสำคัญต่อการดูแลทุกข์สุขของประชาชนผู้มีรายได้น้อยทุกกลุ่ม ทั้งที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ชนบทหรือในเขตเมือง โดยเฉพาะชุมชนต่างๆ ที่กระจายตัวอยู่ทั่วกรุงเทพฯ ทั้งชุมชนริมคลอง ชุมชนแออัด ที่มีสภาพแวดล้อมไม่เหมาะสม คุณภาพชีวิตไม่ดีเพียงพอ ทำให้เกิดความยากลำบากต่อการดำรงชีวิต จึงได้มีแนวคิดในการจัดระเบียบชุมชนริมคลอง เพื่อจะแก้ปัญหาการบุกรุกคูคลองสาธารณะ โดยจะจัดหาพื้นที่สร้างที่อยู่ใหม่ให้กับประชาชน และเป็นที่อยู่อาศัยที่มีคุณภาพ มั่นคง ไม่ผิดกฎหมาย และได้กรรมสิทธิ์ด้วยการผ่อนส่ง และหามาตรการช่วยเหลืออื่นๆ ทางด้านการเงิน ตามความเหมาะสม ก่อนจะจัดตั้งองค์กรชุมชนเข้ามาดำเนินการ จดทะเบียนเป็นสหกรณ์เคหสถานในอนาคต เพื่อเข้ามาบริหารจัดการและแก้ไขปัญหาต่าง ๆ ในชุมชนนั้น

สำนักงานส่งเสริมสหกรณ์กรุงเทพมหานครพื้นที่ 2 ร่วมประชุมกับสำนักงานเขตในกรุงเทพมหานคร และผู้อำนวยการสำนักบริหารจัดการน้ำของกทม, สถาบันองค์กรพัฒนาชุมชน (พอช.) และสำนักงานทรัพยสินส่วนพระมหากษัตริย์และราชพัสดุ หารือกันถึงแนวทางในการแก้ไขปัญหาตามนโยบายของนายกรัฐมนตรีว่าทำอย่างไรให้ผู้ที่อาศัยอยู่บริเวณริมคลองได้มีที่อยู่อาศัยที่มั่นคง โดยรัฐบาลได้กำหนดให้ใช้ระบบสหกรณ์เข้ามาดำเนินการไปแก้ไขปัญหา ซึ่งชุมชนริมคลองที่อยู่ในความรับผิดชอบของสำนักงานส่งเสริมสหกรณ์กรุงเทพมหานครพื้นที่ 2 มีจำนวนทั้งสิ้น 13 แห่ง แนวทางการช่วยเหลือคือการปรับปรุงสภาพพื้นที่นำผู้ที่บุกรุกลงไปสร้างบ้านอาศัยในลำคลองขึ้นมา แล้วสร้างที่อยู่อาศัยใหม่บนบกบริเวณริมฝั่งคลอง โดยที่เนื้อที่คลองต้องมีระยะประมาณ 35 เมตร และระยะห่างจากริมฝั่งๆละ 1.5 เมตร รวม 38 เมตร

“ขณะนี้ได้ส่งเจ้าหน้าที่ลงไปให้ความรู้เกี่ยวกับการนำวิธีการสหกรณ์เข้ามาปรับใช้ในการดำเนินการต่างๆ ภายในชุมชนเน้นให้นำวิธีการสหกรณ์มาช่วยแก้ไขปัญหา รู้จักการช่วยเหลือตนเองและช่วยเหลือพึ่งพาอาศัยซึ่งกันและกัน ก่อนจะเริ่มจัดระเบียบสังคมในชุมชน เรื่องการสร้างที่อยู่อาศัย การแบ่งสรรพื้นที่เพื่อปลูกบ้านพัก และใช้วิธีการสหกรณ์มาจัดสรรพื้นที่สำหรับชาวบ้านในแต่ละครอบครัวในจำนวนที่เท่ากัน ปรับสภาพแวดล้อมให้ดีขึ้น ปรับทัศนียภาพใหม่ โดยทางพอช.เข้ามาสนับสนุนเงินกู้ดอกเบี้ยต่ำให้ชาวบ้านกู้ยืมไปสำหรับการสร้างที่อยู่อาศัย และให้ชาวบ้านรวมกันตั้งเป็นสหกรณ์ เพื่อรวบรวมเงินส่งใช้คืน พอช. ซึ่งเป็นการดำเนินการตามรูปแบบสหกรณ์เคหะสถาน โดยได้เข้าไปจัดตั้งสหกรณ์เป็นต้นแบบที่สหกรณ์เคหสถานสะพานไม้สอง จำกัด เขตหลักสี่ เมื่อดำเนินการที่นี่เป็นแห่งแรกแล้วประสบผลสำเร็จก็จะขยายไปในชุมชนริมคลองอีก 13 แห่งต่อไป และจะเปิดโอกาสให้ชาวบ้านได้มีส่วนร่วมในการเสนอความเห็นและรับฟังปัญหาจากชาวบ้าน เพื่อให้ทุกคนค่อยๆซึมซับและรู้จักนำวิธีการสหกรณ์เข้ามาแก้ไขปัญหาและดำเนินการบริหารจัดการในชุมชนเพิ่มมากขึ้น ซึ่งจะก่อให้เกิดความเข้มแข็งและสามารถบรรเทาปัญหาความเดือดร้อนให้กับชาวบ้านในชุมชนริมคลองทั่วกรุงเทพมหานครได้ในที่สุด”