นายสี จิ้นผิง ประธานาธิบดีสาธารณรัฐประชาชนจีน กล่าวสุนทรพจน์พิเศษ ในหัวข้อ “คบเพลิงแห่งพหุภาคีส่องสว่างแก่หนทางความก้าวหน้าของมนุษยชาติ” ในการประชุมดาวอสของฟอรั่มเศรษฐกิจโลก (World Economic Forum : WEF) เมื่อวันที่ 25 มกราคม 2564 ผ่านระบบการประชุมทางไกลจากกรุงปักกิ่ง ความว่า ในรอบปีที่ผ่านมา ระบบสาธารณสุขโลกเผชิญภัยคุกคามขั้นร้ายแรง และเศรษฐกิจโลกก็ตกอยู่ในภาวะซบเซาอย่างลึกซึ้ง ซึ่งประชาชนในประเทศต่าง ๆ ได้ต่อสู้กับโควิด-19 ด้วยความมุ่งมั่นและความกล้าหาญ โดยพึ่งพาอาศัยพลังทางวิทยาศาสตร์ เชิดชูส่งเสริมเจตนารมณ์แห่งมนุษยธรรม จนทำให้การต้านโรคระบาดทั่วโลกประสบผลสำเร็จในเบื้องต้น
“เมื่อเร็ว ๆ นี้ โควิด-19 เกิดการระบาดขึ้นมาอีกรอบหนึ่งในหลายพื้นที่ ดังนั้น การต้านโควิด-19 ยังต้องดำเนินต่อไป แต่เราเชื่อมั่นว่าฤดูหนาวไม่สามารถถ่วงการมาถึงของฤดูใบไม้ผลิ คืนที่มืดมนไม่สามารถบดบังแสงของอรุณรุ่ง มนุษย์จะสามารถเอาชนะโรคระบาดได้อย่างแน่นอน ทั้งยังจะสามารถก้าวหน้า เติบโต และเกิดใหม่ในกระบวนการต่อสู้กับภัยพิบัติต่าง ๆ ได้อย่างแน่นอน”
นายสีกล่าวอีกว่า ประวัติศาสตร์พัฒนาอย่างไม่หยุดยั้ง โลกไม่สามารถย้อนกลับคืนสู่ยุคก่อน ขณะเดียวกันเราต้องแก้ไขปัญหาใหญ่ 4 ประการที่โลกยุคนี้กำลังเผชิญ ประการแรก คือ หนุนเสริมการประสานนโยบายเศรษฐกิจมหภาค ร่วมกันเพื่อขับเคลื่อนให้เศรษฐกิจโลกเติบโตขึ้นอย่างมั่นคง ยั่งยืน สมดุล และครอบคลุม ประการที่สอง จะต้องละทิ้งอคติทางค่านิยม ร่วมกันเดินบนหนทางแห่งการอยู่ร่วมกันอย่างสันติ อำนวยประโยชน์แก่กัน และได้ชัยชนะร่วมกัน ประการที่สาม เราจะต้องลดความเหลื่อมล้ำในการพัฒนาประเทศระหว่างประเทศพัฒนาแล้วกับประเทศกำลังพัฒนา โดยร่วมกันขับเคลื่อนการพัฒนาและความเจริญของประเทศต่าง ๆ ทั่วโลก ประการที่สี่ แต่ละประเทศต้องร่วมกันรับมือความท้าทายระดับโลก และร่วมกันสร้างอนาคตที่ดีงามของมวลมนุษยชาติ
นายสี กล่าวว่า หลังผ่านการฟันฝ่าต่อสู้อย่างยากลำบากเป็นเวลานาน ประชาชนจีนใกล้บรรลุชัยชนะแห่งการสร้างสังคมมีกินมีใช้อย่างรอบด้าน การขจัดความยากจนประสบผลสำเร็จเชิงประวัติศาสตร์ จีนได้เริ่มกระบวนการใหม่แห่งการสร้างสรรค์ประเทศสังคมนิยมที่ทันสมัยอย่างรอบด้าน
“เราจะพิจารณาจากขั้นตอนใหม่แห่งการพัฒนา ปฏิบัติตามแนวคิดใหม่แห่งการพัฒนา สร้างโครงสร้างใหม่แห่งการพัฒนาที่ถือการหมุนเวียนใหญ่ภายในประเทศเป็นหลัก และให้การหมุนเวียนภายในกับการหมุนเวียนระหว่างประเทศเกื้อหนุนซึ่งกันอย่างแข็งขัน ทั้งยังร่วมกับประเทศต่าง ๆ สร้างโลกที่มีสันติอย่างถาวร ปลอดภัยโดยทั่วไป มีความเจริญรุ่งเรืองร่วมกัน เปิดกว้างหลอมรวม และสะอาดสวยงาม”
นายสีกล่าวย้ำว่า จีนจะเข้าร่วมความร่วมมือต้านโควิด-19 ระหว่างประเทศอย่างแข็งขัน รวมทั้งจีนจะดำเนินยุทธศาสตร์เปิดประเทศที่อำนวยประโยชน์แก่กันและได้ชัยชนะร่วมกัน อีกทั้งจีนจะปฏิบัติตามวาระการพัฒนาอย่างยั่งยืน ค.ศ. 2030 ของสหประชาชาติอย่างรอบด้าน เสริมสร้างอารยธรรมทางระบบนิเวศ เร่งปรับปรุงโครงสร้างอุตสาหกรรมและพลังงาน พร้อมกับการส่งเสริมวิถีการผลิตและใช้ชีวิตแบบสีเขียวและคาร์บอนต่ำ
"ข้าพเจ้าได้ประกาศแล้วว่า จีนจะใช้ความพยายามให้ปริมาณการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ถึงจุดสูงสุดก่อน ค.ศ. 2030 และบรรลุการปล่อยคาร์บอนเป็นศูนย์ก่อน ค.ศ. 2060”
นายสีกล่าวต่อว่า จีนจะขับเคลื่อนการสร้างนวัตกรรมทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีต่อไป โด จีนจะเพิ่มการทุ่มเททางด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ใช้ความพยายามเต็มกำลังความสามารถสร้างระบบการสร้างนวัตกรรม เร่งกระบวนการเปลี่ยนผลสำเร็จทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีให้เป็นกำลังการผลิตที่แท้จริง เสริมการคุ้มครองทรัพย์สินทางปัญญา ผลักดันการเติบโตเชิงคุณภาพที่พึ่งพาการขับเคลื่อนด้วยนวัตกรรม ผลสำเร็จทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีนั้นควรสร้างความผาสุกแก่ทั้งมวลมนุษย์ แต่ไม่ควรกลายเป็นเครื่องมือในการจำกัดและยับยั้งการพัฒนาของประเทศ
อีกอย่างหนึ่งที่สำคัญคือ จีนจะขับเคลื่อนการสร้างความสัมพันธ์ระหว่างประเทศรูปแบบใหม่ต่อไป “คุณแพ้ผมชนะ ผู้ชนะกวาดเรียบ” หาใช่ปรัชญาแห่งการใช้ชีวิตของชาวจีน จีนยึดมั่นในนโยบายทางการทูตที่สันติ อิสระ และเป็นตัวของตัวเองอย่างเด็ดเดี่ยวแน่วแน่ ใช้ความพยายามสมานความขัดแย้งผ่านการพูดคุย แก้ไขข้อพิพาทผ่านการเจรจา พัฒนาความสัมพันธ์ฉันมิตรและความร่วมมือกับประเทศต่าง ๆ อย่างแข็งขันบนพื้นฐานการเคารพซึ่งกันและกัน เสมอภาค และเท่าเทียม
“สุภาพสตรี สุภาพบุรุษ มิตรทั้งหลาย มวลมนุษย์มีเพียงโลกเดียว มนุษย์มีอนาคตร่วมกันเพียงหนึ่งเดียวเท่านั้น ไม่ว่าการรับมือวิกฤติในปัจจุบัน หรือ ร่วมกันสร้างอนาคตที่สวยงาม มวลมนุษย์ต้องอาศัยการร่วมแรงร่วมใจ ความสามัคคี และความร่วมมือ ข้อเท็จจริงพิสูจน์ให้เห็นครั้งแล้วครั้งเล่าว่า การกระทำใดที่โยนความเลวร้ายแก่ผู้อื่น แนวคิดใดที่เอาแต่ต่อสู้คนเดียว หรือ ความเย่อหยิ่งใดที่ชื่นชมและหลงตัวเอง ล้วนย่อมจะประสบความพ่ายแพ้ในที่สุด ขอให้พวกเราจูงมือกัน ให้คบเพลิงแห่งลัทธิพหุภาคีส่องสว่างหนทางของมวลมนุษย์ในการก้าวสู่การสร้างประชาคมที่มีอนาคตร่วมกันอย่างต่อเนื่อง” ประธานาธิบดีสาธารณรัฐประชาชนจีน กล่าวปิดท้าย
# กอง บก. อปท.นิวส์ เรียบเรียง คัดย่อ จากบทแปลเรียบเรียงโดย “ภาคภาษาไทย ศูนย์เอเชียแอฟริกา สถานีวิทยุและโทรทัศน์ส่วนกลางแห่งประเทศจีน-CMG”